แนะนำ 10 เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับ ยี่ห้อไหนดี 2020 ดูดแรง น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายก็สะดวก
เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับ ถือเป็นตัวช่วยสำคัญของคุณพ่อบ้านคุณแม่บ้านในการทำความสะอาดอย่างแท้จริง ช่วยทำให้บ้านสะอาดได้ในพริบตา โดยที่แทบไม่ต้องออกแรงเลย ด้ามจับที่ถูกออกแบบมาอย่างพอดีมือ ทำให้ไม่ต้องก้มลงทำความสะอาดพื้นให้เมื่อยหลังอีกต่อไป ทั้งยังช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาดมากขึ้นอีกด้วย เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับทำให้คุณมีเวลาเหลือไปทำกิจกรรมอื่น ๆ มากมาย เช่น รดน้ำต้นไม้ ทำอาหาร อ่านหนังสือเล่มโปรด ดูแลลูก ๆ เป็นต้น เรียกได้ว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับไม่ใช่เพียงอุปกรณ์ทุ่นแรง แต่เป็นผู้ช่วยที่ทำให้คุณมีเวลาดูแลครอบครัว และได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นกว่าเดิม
ปัจจุบันมีการผลิตเครื่องดุดฝุ่นแบบมีด้ามจับออกมามากมายหลายรุ่น พร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับที่มีสายไฟ เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับไร้สาย เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับที่สามารถปรับเป็นขนาดเล็กแบบพกพาได้และปรับไม่ได้ จะทราบได้อย่างไรว่าแบบไหนที่ดีที่สุดและเหมาะกับการใช้งานจริงมากที่สุด วันนี้เราได้เลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับ 10 ตัว มาให้ลองพิจารณาและเลือกซื้อใช้กันค่ะ
สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าควรซื้อเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับหรือไม่ ไม่แน่ใจว่าจะใช้งานได้คุ้มค่ารึเปล่า ต้องขอบอกเลยว่าหากได้ลองใช้สักครั้งจะลืมไม้กวาดด้ามเก่าไปเลยทีเดียว เพราะงานทำความสะอาดจะกลายเป็นเรื่องง่าย ทำได้อย่างรวดเร็ว แถมยังดีกับสุขภาพอนามัยของผู้ใช้งานและผู้อยู่อาศัย ช่วยให้สัมผัสฝุ่นละอองน้อยลง ลดอาการภูมิแพ้ ทั้งยังดีต่อสุขภาพหลังและข้อมือ ทำให้ไม่ต้องก้ม ๆ เงย ๆ บ่อย ๆ เวลาทำความสะอาดใต้เตียง ใต้โซฟา และไม่ต้องออกแรงกวาดหรือถูพื้นเพื่อขจัดสิ่งสกปรก เพียงแค่ถือด้ามจับเครื่องดูดฝุ่นให้ถนัดมือเท่านั้น บ้านก็กลับมาสะอาดหมดจดได้แล้ว
ก่อนจะตัดสินใจซื้อเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับสักชิ้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยใช้เครื่องดูดฝุ่นเลยสักครั้ง ดังนั้นควรเริ่มพิจารณาจากงบประมาณที่สามารถจ่ายได้ก่อน จากนั้นศึกษาข้อมูลฟังก์ชั่นการทำงานของเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่นให้ดี ไม่ว่าจะเป็นประเภทหัวแปรงดูด กำลังวัตต์ น้ำหนัก ความจุของกล่องเก็บฝุ่น ความสามารถในการปรับให้เป็นแบบพกพา ระดับความดังของเสียง รวมถึงความยากง่ายในการถอดล้างทำความสะอาดก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
มาถึงตรงนี้ สนใจอยากจะซื้อเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับกันแล้วสินะคะ ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยกันแล้ว กับ 10 เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับ ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนเด็ด ที่เราอยากแนะนำให้ลองใช้กันนั้นมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างบ้าง
เริ่มกันที่แบรนด์คุณภาพจากประเทศอังกฤษอย่าง Dyson ที่นาทีนี้หลาย ๆ คนต้องคุ้นเคยชื่อ เพราะโด่งดังในเรื่องคุณภาพที่มาพร้อมราคาแบบไฮเอนด์ เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับรุ่นที่อยากแนะนำ คือ V11™ Absolute Cord-Free Vacuum Cleaner บริเวณด้ามจับมีจอ LED แสดงผลการทำงานแบบเรียลไทม์ คอยแจ้งเตือนการดูแลรักษาตัวกรอง รายงานปัญหาอุดตัน ระดับแบตเตอรี่ และปรับระดับโหมดทำความสะอาดตามต้องการ ซึ่งสามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ ดังนี้
นอกจากโหมดทำความสะอาดแล้ว ยังมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจคือ ระบบ Dynamic Load Sensor ตัวเซ็นเซอร์สามารถตรวจจับแรงต้านที่หัวแปรงได้ จากนั้นระบบจะปรับความเร็วมอเตอร์ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่กำลังทำความสะอาดอยู่ ณ ขณะนั้น ซึ่งเป็นประโยชน์มากในกรณีที่ต้องทำความสะอาดพื้นพรมสลับกับพื้นกระเบื้องหรือพื้นลามิเนตเรียบอยู่เป็นประจำ ช่วยให้ไม่ต้องคอยกดปรับโหมดทำความสะอาดเองตลอดเวลา
ตรงหัวแปรงทำความสะอาดเป็นแปรงไนล่อนแข็ง ทำให้แทรกเข้าไปในพรม และดูดสิ่งสกปรกที่ฝังแน่นได้ดียิ่งขึ้น สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน และมีตัวกรองทั้งหมด 6 ชั้น อีกทั้งสามารถปรับหัวแปรงให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ถึง 6 แบบ รวมถึงปรับความยาวด้ามจับ ให้กลายเป็นเครื่องดูดฝุ่นขนาดพกพาสำหรับใช้ดูดฝุ่นโซฟาหรือเบาะรถยนต์ได้อีกด้วย
การเทฝุ่นทิ้งหลังใช้งานก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยวิธี “Point And Shoot” เพียงเลื่อนกล่องบรรจุฝุ่นมาด้านหน้า กล่องก็จะถูกเปิดออกและเทฝุ่นลงถังขยะทันที โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องสัมผัสกับฝุ่นหรือสิ่งปรกแม้แต่นิดเดียว หลังใช้งานเพียงวางเครื่องดูดฝุ่นบนแท่นชาร์จติดผนัง ระบบจะทำการชาร์จแบตเตอรี่ไว้เองอัตโนมติ เพื่อให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ และจากการสำรวจผู้ใช้งานจริงต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับรุ่นนี้ใช้งานได้ดีตามที่โฆษณาไว้ แบตเตอรี่ที่ปรับมาใหม่ช่วยให้ใช้งานได้นานขึ้นอีกด้วย
ใครที่ชอบความเบา พลาดไม่ได้กับรุ่นนี้ เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับของ Xiaomi Dreame V10 ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.5 กิโลกรัมเท่านั้น นับว่าเบาที่สุดในบรรดา 10 ตัว ที่แนะนำในวันนี้เลย ที่ด้ามจับสามารถปรับเป็นเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กแบบพกพาได้ ทำให้ใช้งานได้สะดวกมาก ใช้ได้ดีในกรณีที่ต้องการยกเครื่องดูดฝุ่นขึ้น เพื่อทำความสะอาดในบริเวณสูง เช่น ฝ้าเพดาน ช่องแอร์ หรือหลังตู้เสื้อผ้าด้วย ตัวเครื่องใช้งานได้นานสูงสุด 60 นาที และสามารถปรับเปลี่ยนหัวแปรงเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันทั้งหมด 4 แบบ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดรอยแยกโซฟา บริเวณแคบ หรือบริเวณผนังโค้งก็สามารถเปลี่ยนหัวแปรงดูดฝุ่นทำความสะอาดได้อย่างหมดจด
นอกจากนี้ ยังมีระบบ Smart Cool ช่วยตรวจจับและรักษาระดับอุณหภูมิของตัวเครื่องดูดฝุ่นไม่ให้ร้อนจนเกินไป มีชั้นกรองอากาศ HEPA 5 ชั้น ช่วยดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก ทางผู้ผลิตยังพยายามเลือกวัสดุ เช่น วัสดุตัวกรองละอองฝุ่นภายใน เลือกใช้เป็นวัสดุผสมผ้าฝ้าย เพื่อลดระดับความดังของเสียง ทำให้ขณะใช้งานไม่มีเสียงดังรบกวนเด็ก ๆ หรือสมาชิกภายในบ้าน และจากที่ได้ลองสำรวจผู้ใช้งานจริง หลายท่านรู้สึกประทับใจ ตัวเครื่องมีแรงดูดดี รู้สึกคุ้มค่ากับราคาที่ซื้อ และอยากแนะนำให้ผู้อื่นใช้
กลับมาที่ Dyson เจ้าเก่า แม้จะราคาแรงแต่ก็ยังเป็นเครื่องดูดฝุ่นในฝันของหลาย ๆ คนที่อยากลองใช้ เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับไร้สาย Dyson V7™ Fluffy Cord Free Vacuum Cleaner เป็นรุ่นน้องเล็กสุดในตระกูลเครื่องดูดฝุ่น Dyson รุ่น V มีการปรับลดสเปคเครื่องลงมาจากรุ่นท็อปอย่าง V11 โดยปรับโหมดทำความสะอาดเหลือเพียง 2 โหมด ได้แก่ โหมดอัตโนมัติ และโหมดแรงพิเศษ ปลายด้ามมีหัวแปรงดูดฝุ่นแบบลูกกลิ้งที่ดูดทำความสะอาดเศษกระดาษชิ้นโต หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กพร้อม ๆ กันได้เลย โดยสามารถเปลี่ยนหัวแปลงได้ทั้งหมด 5 แบบ และใช้ตัวกรอง HEPA ช่วยจับสารก่อภูมิแพ้ได้ สำหรับฟังก์ชั่นหลักอื่น ๆ ยังคงมีครบ ทั้งแท่นชาร์จติดผนัง และด้ามทำความสะอาดที่ยังสามารถปรับเป็นแบบพกพาขนาดเล็ก
นอกจากนี้ กล่องเก็บฝุ่นละอองยังสามารถทิ้งฝุ่นและสิ่งสกปรกได้โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องสัมผัสกับฝุ่นโดยตรงเช่นเดิม หลายท่านที่ได้ลองใช้จริงมีความเห็นว่า แม้ทาง Dyson จะมีการปรับลดสเปคลง รวมถึงตัวแบตเตอรี่ที่ทำให้ใช้งานต่อเนื่องได้ลดลงเหลือแค่ 30 นาทีก็ตาม แต่เมื่อลองใช้งานจริง ๆ ไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนัก กลับเป็นระยะเวลาที่กำลังพอเหมาะพอดี จึงอาจเรียกได้ว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับรุ่นนี้เป็นอีกทางเลือกของสาวก Dyson ที่อยากได้สินค้าคุณภาพดีในราคาที่ถูกลง
สำหรับใครที่เจอปัญหามองไม่เห็นฝุ่นละอองเวลาที่ต้องดูดฝุ่นใต้เตียง ใต้โซฟา จะต้องชอบเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับของ Dibea Vacuum Cleaner รุ่น D18F แน่นอนเลยค่ะ เพราะตัวนี้มีไฟ LED ช่วยส่องสว่างใต้เฟอร์นิเจอร์ จึงทำให้มองเห็นสิ่งสกปรกได้อย่างชัดเจน สามารถปรับระดับแรงดูดได้ 2 ระดับ ได้แก่ แบบแรงพิเศษ Turbo และแบบ Eco ที่ช่วยประหยัดพลังงาน ทำให้ใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 35 นาที อีกทั้งสามารถสร้างแรงดูดฝุ่นทำความสะอาดโดยใช้ระบบหมุนแบบไซโคลน 4 ขั้น มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษของหัวแปรงที่สามารถเลื่อนซ้าย-ขวา หรือ บน-ล่างได้ และมีช่องดูดฝุ่นที่สามารถปรับได้ 270 องศา ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนหัวแปรงดูดฝุ่นให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ทั้งหมดถึง 5 แบบ
ตัวเครื่องออกแบบให้มีถังเก็บฝุ่นขนาด 0.55 ลิตร พร้อมไส้กรองแบบ HEPA Filter ที่สามารถถอดล้างน้ำทำความสะอาดได้ง่าย รวมถึงที่แขวนติดผนังช่วยให้จัดเก็บได้อย่างเป็นระเบียบหลังใช้งานเสร็จ มีผู้ใช้งานจริงให้ความเห็นว่า แรงดูดของรุ่นนี้อาจจะน้อยกว่าของ Dyson เล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วถือว่าคุณภาพดี โดยเฉพาะเมื่อปรับให้เป็นแบบขนาดเล็กพกพาใช้ดูดฝุ่นละอองในรถยนต์ ตามซอกมุม ใต้เตียง หรือใต้โซฟา นับว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก
เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับ Samsung รุ่น VS60K6050KW/ST ถูกออกแบบมาอย่างสวยงามในสีโทนขาว เทา ดำ ทำให้ดูเรียบสวย เสมือนเป็นของตกแต่งชิ้นหนึ่งของบ้าน วางไว้ในมุมไหนก็ไม่รู้สึกเกะกะหรือรำคาญตา ตัวด้ามจับกระชับมือ มาพร้อมฐานเครื่องที่แข็งแรง และมีล้อช่วยให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก ฟังก์ชั่นการใช้งานก็โดดเด่น คือ สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มโดยใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง ในขณะที่เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับรุ่นอื่น ๆ ต้องใช้เวลาในการชาร์จนานถึง 4.5 – 5 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี EZClean ที่มีหัวแปรงดูดฝุ่นหมุนได้ 180 องศาช่วยขจัดสิ่งสกปรก พร้อมแผ่นกรองดักจับฝุ่นที่สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่สำคัญ คือ ตัวเครื่องสามารถตั้งตรงได้เองอัตโนมัติ คุณแม่บ้านไม่จำเป็นต้องจับเครื่องดูดฝุ่นอยู่ตลอดเวลาในขณะทำความสะอาด สามารถพักมือหรือจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบไปพร้อม ๆ กับการดูดฝุ่นทำความสะอาดในเวลาเดียวกันได้เลย ด้านกระแสตอบรับจากผู้ใช้งานจริง ก็เป็นไปในทิศทางที่ดี หลายท่านรู้สึกคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป และเมื่อลองใช้งานนั้น ถือว่าใช้งานสะดวกจริง ๆ ไม่ต้องออกแรงมากในการทำความสะอาดเลย
สำหรับใครที่ไม่อยากชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ มาลองพิจารณาเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับที่มีสายไฟกันดูบ้าง โดยแบรนด์ที่อยากแนะนำให้ใช้ คือ Electrolux รุ่น EDYL40DB เนื่องจากมีสายไฟยาวถึง 6 เมตร พร้อมล้อเลื่อนรองรับที่ฐาน จึงสามารถลากตัวเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดได้เป็นบริเวณกว้างอย่างสบายใจ และไม่ต้องกังวลหาที่เสียบปลั๊กใหม่เมื่อต้องการเปลี่ยนตำแหน่ง ข้อดีอีกอย่างหนึ่ง คือ มีระบบกรองฝุ่นแบบ HEPA สามารถกำจัดเกสรดอกไม้ และสิ่งสกปรกที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนได้ ช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ทั้งยังเปลี่ยนหัวแปรงให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวได้ 4 แบบ โดยมีหัวดูดที่สามารถใช้ทำความสะอาดผ้าม่านได้ โดยที่ไม่ดูดเนื้อผ้าเข้าไปในตัวเครื่อง ทำให้ไม่ต้องกลัวผ้าเสียเลย
วัสดุภายนอกก็แข็งแรง ทนทาน ไม่แตกหักง่าย มีส่วนระบายความร้อนของมอเตอร์เพื่อไม่ให้อุณหภูมิสูงเกินไป กล่องเก็บฝุ่นมีความจุมากถึง 1.5 ลิตร ซึ่งถือว่าบรรจุฝุ่นละอองได้มากที่สุดจากทั้งหมด 10 ตัว ที่เราได้นำมาเสนอเลย แต่ข้อเสียของรุ่นนี้คืออาจจะเปลืองไฟไปสักนิด เนื่องจากต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามากถึง 800 วัตต์ จึงเหมาะสำหรับการใช้งานที่ไม่บ่อยนัก แต่เมื่อนำมาใช้ดูดฝุ่นทำความสะอาดครั้งหนึ่งจะเป็นการทำความสะอาดแบบ Big Cleaning Day ไปเลยมากกว่า
เมื่อเราได้ลองสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริงพบว่า ใช้งานได้สะดวก เสียงไม่ดัง คุณภาพสมกับราคา มีที่ม้วนเก็บสายไฟและขาตั้งช่วยให้เก็บรักษาได้ง่ายและเป็นระเบียบ แต่ข้อเสียคือน้ำหนักมาก 3.9 กิโลกรัม แม้จะมีล้อเลื่อน แต่ผู้ใช้งานก็รู้สึกเมื่อยและเคลื่อนย้ายลำบากอยู่บ้าง คุณแม่บ้านตัวเล็ก ๆ อาจจะต้องพิจารณาเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับยี่ห้ออื่นแทนค่ะ
ใครที่เป็นสายรักโลก ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ต้องจบที่เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับไร้สายของ Philips รุ่น PowerPro Duo FC6172/01 เลยค่ะ เพราะผู้ผลิตให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก จึงเลือกใช้วัสดุสำหรับผลิตเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้เป็นแบบที่สามารถรีไซเคิลได้ทั้งหมด เรียกได้ว่าจะได้ทำความสะอาดบ้านไปพร้อม ๆ กับช่วยโลกของเราด้วยเลย ส่วนคุณสมบัติการใช้งานอื่น ๆ โดยรวมนั้น มีความคล้ายคลึงกับเครื่องดูดฝุ่นของ Dyson รุ่น V7 ที่ใช้หัวดูดแบบ Active Turbo พร้อมใส่แผ่นกรองคุณภาพจากประเทศเยอรมันนี มาให้ในตัวเครื่องทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน ช่วยดักจับฝุ่นและจุลินทรีย์ขนาดเล็กสุดได้ 0.3 ไมครอน พร้อมทั้งสามารถเก็บฝุ่นได้ 0.6 ลิตร และใช้งานต่อเนื่องได้ 60 นาทีเช่นเดียวกัน แต่ในทางตรงกันข้าม เครื่องดูดฝุ่นของ Phillips รุ่นนี้มีน้ำหนัก 3.2 กิโลกรัม มีน้ำหนักมากกว่าของ Dyson เล็กน้อย และสามารถปรับหัวแปรงได้น้อยกว่าเพียงแค่ 2 แบบเท่านั้น ในขณะที่ Dyson สามารถปรับได้ทั้งหมด 5 แบบ
หากพิจารณาคุณภาพโดยรวมแล้ว นับว่ามีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สำคัญครบถ้วนเหมือนกัน เพียงแต่มีการปรับลดสเปคของแต่ละฟังก์ชั่นลง ซึ่งสอดคล้องกับราคาจัดจำหน่ายที่ย่อมเยากว่าเช่นกัน หลายคนที่ได้ซื้อไปใช้งานจริง ต่างแสดงความคิดเห็นกันว่า ตัวเครื่องมีแรงดูดเหมาะสมกับการทำความสะอาดดี สามารถใช้ดูดฝุ่นบนที่นอนได้ ดังนั้นสำหรับใครที่อยากให้เครื่องดูดฝุ่นแบรนด์คุณภาพ เชื่อถือได้ ในราคาย่อมเยา รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์
เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับไร้สาย SHARP รุ่น EC-LH18-BR เหมาะสำหรับใครที่ต้องการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นจากแบรนด์ดัง ที่เป็นที่รู้จักและเชื่อถือได้ มีฟังก์ชั่นการใช้งานคล้ายคลึงกับเครื่องดูดฝุ่นของ Dibea Vacuum Cleaner รุ่น D18F ในตัวด้านบน ได้แก่ ความจุของฝุ่นละอองที่สามารถจุได้ 0.4 ลิตร และมีน้ำหนักตัวเครื่อง 2.7 กิโลกรัมใกล้เคียงกัน ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องสามารถทำได้เท่ากันคือ 35 นาที และสามารถปรับด้ามเป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือได้เหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่รุ่นนี้มีหัวแปรงดูดฝุ่นเพียงแค่แบบเดียว
อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้มีคุณสมบัติที่เหนือกว่าคือ ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุที่ใช้เหล็กเป็นพื้นฐาน ทำให้มีความแข็งแรง คงทน สามารถตั้งตรงเองได้ไม่สั่นคลอน ไม่ต้องคอยจับตัวเครื่องอยู่ตลอดเวลา ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ช่วยให้จ่ายไฟแรงและคงที่อยู่ตลอดเวลา แม้แต่ในช่วงที่แบตเตอรี่ใกล้จะหมด รวมถึงมีระยะชาร์จไฟจนเต็มความจุที่เร็วกว่าอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีราคาถูกกว่าเครื่องดูดฝุ่น Dibea Vacuum Cleaner รุ่น D18F ประมาณ 1,000 บาท และเมื่อลองสำรวจความเห็นของผู้ใช้งานหลายท่านแสดงความเห็นว่า เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับรุ่นนี้มีสีสันสวยงามน่ามอง เหมาะสำหรับใช้งานในระดับกลาง ๆ ทำความสะอาดพื้นเรียบที่สกปรกไม่มากได้ดี..
สมกับเป็น Xiaomi ที่ขายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าครอบจักรวาล อีกตัวที่เราอยากแนะนำกับ เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับ Xiaomi Deerma Handheld Wireless Vacuum Cleaner VC20 ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา สามารถยกทำความสะอาดพื้นที่บริเวณสูงได้ง่ายและสะดวก ภายในตัวเครื่องใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ และทำให้การจ่ายไฟมีประสิทธิภาพเทียบเท่าแบรนด์ชั้นนำ
และสำหรับท่านใดที่ชอบทำความสะอาดใช้งานเครื่องดูดฝุ่นบ่อยครั้งคงจะถูกใจรุ่นนี้เป็นพิเศษ เพราะเป็นรุ่นประหยัดไฟ ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 100 วัตต์ และสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 30 นาที โดยมีถังบรรจุฝุ่นขนาดใหญ่ 0.6 ลิตร และเสียงรบกวนน้อยเพียงแค่ 75 dB เท่านั้น โดยหัวแปรงทำความสะอาดสามารถปรับเปลี่ยนได้ทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ หัวแปรงยาว สำหรับทำความสะอาดพื้น หัวแปรงเล็ก ปรับหมุนได้ 60 องศา และหัวแปรงสำหรับดูดทำคามสะอาดบริเวณรอยแตก อีกทั้งยังสามารถปรับความยาวด้ามจับให้กลายเป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบพกพาสำหรับทำความสะอาดภายในรถยนต์ได้อีกด้วย
จุดสำคัญเลยคือ ราคาไม่สูงจนเกินไปนัก แต่ได้เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับที่ฟังก์ชั่นครบ ใช้งานง่าย ผู้ใช้งานจริงหลายท่านชอบที่ตัวเครื่องน้ำหนักเบา ราคาย่อมเยา ใช้งานก็ได้หลายสถานที่ แต่ข้อเสียคือ เมื่อตัวเครื่องมีการแตกหัก หาอะไหล่มาเปลี่ยนได้ค่อนข้างยากมาก
มาถึงตัวสุดท้ายที่เราอยากแนะนำ นั่นก็คือ เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับ OTTO [PCM] รุ่น HV-092 แม้จะเป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบมีสายไฟ แต่บอกได้เลยว่าฟังก์ชั่นการใช้งานอื่น ๆ ไม่แพ้รุ่นไหน ๆ แน่นอน จุดเด่นสำคัญที่ต้องพูดถึงเป็นอันดับแรกเลยคือ ราคาที่ย่อมเยามาก ๆ เพียง 434 บาทเท่านั้น ถูกกว่าพัดลมบางรุ่นเสียอีก ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา 1.6 กิโลกรัม ด้ามจับถูกออกแบบมาให้สามารถจับได้อย่างถนัดมือ และสามารถปรับเป็นเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กแบบพกพาได้ มีระบบกรองอากาศ 3 ขั้นตอน ได้แก่ กรองฝุ่นละอองขนาดใหญ่อย่างเศษกระดาษหรือเศษพลาสติกก่อน ลำดับต่อมาเครื่องจะกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก และสุดท้ายจะทำการกรองอากาศภายในเพื่อให้อากาศที่จะออกมาจากตัวเครื่องมีความบริสุทธิ์มากที่สุด
นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมความร้อนให้ได้ใช้งานอย่างปลอดภัย กล่องบรรจุฝุ่นสามารถถอดแยกนำออกมาล้างทำความสะอาดได้ง่าย ผู้ใช้งานจริงหลายท่านให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ใช้งานง่าย ประสิทธิภาพสมราคา แต่มีข้อเสียคือใช้พลังงานไฟฟ้าค่อนข้างสูง 600 วัตต์ และมีเสียงดังมาก
ก่อนอื่นเลยต้องดูว่าเราต้องการใช้งานเครื่องดูดฝุ่นแบบไหน ใช้งานบ่อยหรือไม่ ต้องการทำความสะอาดในบริเวณใดบ้าง โดยเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับแบบไร้สายนั้น จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำความสะอาดแบบเร่งด่วน หรือมักจะทำความสะอาดในระยะเวลาสั้น ๆ ภายในบ้านมีเต้ารับสำหรับเสียบปลั๊กค่อนข้างน้อย และต้องการทำความสะอาดในหลายจุดบริเวณที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นทำความสะอาดพื้น ทำความสะอาดชั้นวางของ ทำความสะอาดโซฟา ทำความสะอาดหลังตู้เสื้อผ้า หรือบริเวณพื้นเรียบที่อยู่สูง รวมถึงช่องแอร์ที่เพดาน ซึ่งในกรณีดังกล่าว เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับไร้สายจะตอบโจทย์การใช้งานมากกว่า เพราะสามารถหยิบยก เคลื่อนย้ายได้สะดวกโดยไม่มีสายไฟรุงรัง และไม่ต้องคอยมองหาปลั๊กไฟอยู่ตลอดเวลา
ในทางกลับกันเครื่องดูดฝุ่นมีด้ามจับแบบธรรมดาที่มีสายไฟนั้น มีข้อจำกัดที่เห็นได้ชัดคือ ผู้ใช้งานจะสามารถทำความสะอาดได้ในบริเวณที่จำกัดตามระยะสายไฟเท่านั้น หากต้องการเปลี่ยนตำแหน่งต้องมองหาปลั๊กไฟใหม่ ทำให้เคลื่อนย้ายไปทำความสะอาดในจุดอื่น ๆ ได้ลำบากกว่า แต่ก็ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ สามารถใช้งานได้ยาว ๆ และเหมาะมากกับการทำความสะอาดแบบจัดหนักจัดเต็ม
น้ำหนักของเครื่องดูดฝุ่นเป็นอีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะสำหรับคุณแม่บ้านแล้ว การใช้งานเครื่องดูดฝุ่นแต่ละครั้ง เปรียบเสมือนการหยิบไม้กวาดออกมาทำความสะอาดบ้าน หากเครื่องดูดฝุ่นมีน้ำหนักมากและต้องใช้งานทุกวัน แทนที่จะทำความสะอาดบ้านได้อย่างสะดวกง่ายดายไม่เปลืองแรง กลับต้องประสบปัญหาเมื่อยล้า จากการเคลื่อนย้ายเครื่องดูดฝุ่นอย่างยากลำบากแทน หากเป็นเช่นนี้จะเรียกได้ว่าเครื่องดูดฝุ่นเป็นเครื่องมือที่ช่วยทุ่นแรงได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม เครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับที่เหมาะสมควรมีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม โดยเฉพาะรุ่นที่สามารถปรับเป็นแบบพกพาได้ เพราะจะช่วยให้สามารถยกเครื่องดูดฝุ่นเพื่อทำความสะอาดบริเวณสูงได้สะดวก ยิ่งน้ำหนักน้อยยิ่งหยิบย้ายได้ง่ายขึ้น ทำความสะอาดได้รวดเร็ว ช่วยให้บ้านสะอาดหมดจด และยังช่วยคุณแม่บ้านประหยัดเวลาไปทำอย่างอื่นอีกด้วย
ความจุของถุงเก็บฝุ่นหรือกล่องเก็บฝุ่นควรมากหรือน้อย?
อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องพิจารณาคือ ความจุของถุงเก็บฝุ่น หรือกล่องเก็บฝุ่น ยิ่งเก็บได้มากเท่าไหร่ยิ่งทำให้ระยะเวลาการดูดฝุ่นทำความสะอาดไม่ยุ่งยากเท่านั้น เพราะไม่ต้องคอยเปลี่ยนเทฝุ่นละอองอยู่บ่อย ๆ ซึ่งจะทำให้เสียเวลาการทำความสะอาดไปโดยใช่เหตุ อย่างไรก็ตามหากกล่องบรรจุฝุ่นละอองมีขนาดใหญ่กินไป อาจส่งผลกระทบกับฟังก์ชั่นการใช้งานอื่น ๆ ได้ เช่น ทำให้ตัวเครื่องเสียสมดุล ไม่สามารถวางตั้งตรงได้เองอัตโนมัติ ผู้ใช้งานต้องคอยจับเครื่องดูดฝุ่นขณะใช้งานอยู่ตลอดเวลา จากข้อดีจึงกลายเป็นข้อเสีย ดังนั้นหากต้องการซื้อเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับ แนะนำให้พิจารณาเครื่องที่มีปริมาณความจุ 0.5 ลิตรเป็นอย่างน้อย ซึ่งถือเป็นปริมาณบรรจุที่เหมาะสมต่อการใช้งานหนึ่งครั้ง
ก่อนจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภท สิ่งที่ห้ามมองข้ามคือปริมาณการใช้ไฟฟ้า หรือ กำลังวัตต์ที่เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องนั้น ๆ จำเป็นต้องใช้ เครื่องดูดฝุ่นก็เช่นกัน กำลังวัตต์ที่แนะนำคือช่วงระหว่าง 100 – 350 วัตต์ โดยควรพิจารณาฟังก์ชันการปรับระดับแรงดูดฝุ่นร่วมด้วย เนื่องจากเครื่องดูดฝุ่นบางรุ่นมีโหมดประหยัดพลังงาน ใช้แรงลมเบาสำหรับทำความสะอาดพื้นบริเวณที่ไม่สกปรกมาก ซึ่งการเลือกใช้โหมดแบบนี้ ตัวเครื่องจะดึงไฟฟ้ามาใช้งานน้อย ช่วยให้ไม่สิ้นเปลืองค่าไฟฟ้า
นอกจากการพิจารณาเป็นหน่วยวัตต์แล้ว เครื่องดูดฝุ่นหลายยี่ห้อใช้วิธีบอกปริมาณการใช้ไฟฟ้า โดยแจ้งเป็น “แอร์วัตต์” (Air Watt หรือ AW) แทน ซึ่งจะเห็นได้จากเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับ Dyson ข้างต้น โดยการแจ้งหน่วยแอร์วัตต์เช่นนี้เป็นการวัดปริมาณแรงลมที่เครื่องดูดฝุ่นปล่อยออกมาในขณะทำความสะอาด ยิ่งตัวเลขสูงมาก นั่นหมายความว่าเครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อดังกล่าวมีแรงดูดที่แรง สามารถขจัดสิ่งสกปรกที่มากเป็นพิเศษได้ดี แต่อย่างไรก็ตามตัวเลขแอร์วัตต์ ไม่สามารถเปรียบเทียบกับตัวเลขวัตต์ได้โดยตรง เนื่องจากตัวเลขแอร์วัตต์เป็นตัวเลขที่แสดงถึงพลังงานไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมา (Output) แต่เลขวัตต์ เป็นตัวเลขที่แสดงถึงพลังงานไฟฟ้าที่ถูกนำไปใช้ (Input) นั่นเอง
ในกรณีที่ต้องการซื้อเครื่องดูดฝุ่นมีด้ามจับแบบไร้สาย ควรพิจารณาถึงระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ และระยะเวลาที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องด้วย เพื่อไม่ให้การทำความสะอาดบ้านต้องสะดุดขาดตอน อย่างน้อยควรใช้งานได้ต่อเนื่องนาน 30 นาที และมีระยะเวลาการชาร์จแบบให้เต็มภายในระหว่าง 2-3 ชั่วโมง นอกจากนี้ควรพิจารณาวัสดุที่ใช้ทำแบตเตอรี่ร่วมด้วย แบตเตอรี่ที่อยากแนะนำคือ แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน เพราะจ่ายไฟได้แรงและคงที่ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีระยะเวลาการชาร์จไฟจนเต็มความจุที่เร็วกว่าอีกด้วย
มีเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายรุ่นที่สามารถปรับหัวแปรงดูดฝุ่นให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่ต้องการทำความสะอาด ซึ่งช่วยให้ประสิทธิภาพการดูดฝุ่นดียิ่งขึ้น ตัวอย่างการเลือกใช้หัวแปรงที่เหมาะสมมีดังต่อไปนี้
• หัวแปรงแบบปากแคบแบบธรรมดา เหมาะสำหรับการดูดฝุ่นทำความสะอาดบริเวณที่เป็นช่องแคบ ๆ เช่น ช่องระหว่างโซฟา
การทำความสะอาดและเก็บรักษา เพื่อยืดอายุการใช้งานเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับแต่ละประเภทมีวิธีการที่แตกต่างกัน ผู้ใช้งานควรอ่านคู่มือและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างถูกวิธี ในกรณีเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับที่มีแท่นชาร์จหรืออุปกรณ์ติดผนังมาให้ ควรวางเก็บบนแท่นดังกล่าวให้เข้าล็อคพอดีทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ แต่หากเป็นรุ่นที่ไม่มีแท่นวาง แนะนำให้วางเครื่องดูดฝุ่นพิงกับผนังไม่ควรแขวนให้ลอยจากพื้น เพราะการแขวนจะทำให้เครื่องดูดฝุ่นถูกถ่วงน้ำหนักลง ซึ่งอาจส่งผลให้อะไหล่บางส่วนเสียหาย ยิ่งเครื่องดูดฝุ่นมีน้ำหนักก็จะยิ่งมีความเสี่ยงให้เกิดความเสียหายมากขึ้นตามไปด้วย
ต่อมาคือ การเก็บล้างกล่องบรรจุฝุ่น บางรุ่นสามารถถอดออกจากตัวเครื่องได้ ส่วนรุ่นที่ถอดไม่ได้ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดทำความสะอาด นอกจากนี้ยังมีบางรุ่นที่เป็นการกรองอากาศ หลังการใช้งานให้นำไส้กรองมาซักล้างน้ำทำความสะอาดและตากให้แห้งก่อนนำกลับมาใช้งานอีกครั้ง
หลังจากที่ได้อ่านบทความกันไปแล้ว หวังว่าจะมีประโยชน์และช่วยให้ใครที่กำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นแบบมีด้ามจับสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ ก่อนการซื้ออยากให้พิจารณาฟังก์ชั่นการใช้งานในแต่ละข้อให้ครบถ้วนว่า มีความเหมาะสม และตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ การทำความสะอาด การเก็บดูแลรักษายุ่งยากเกินไปหรือเปล่า มีการรับประกันสินค้า หรือหาอะไหล่เปลี่ยนซ่อมบำรุงได้ง่าย ราคาไม่แพงหรือไม่
สิ่งที่สำคัญเลยคือ มีงบประมาณเท่าไหร่ หากมีตัวเลขที่ชัดเจนจะยิ่งช่วยให้ตัดตัวเลือกออกไปได้ง่ายขึ้น และตัดสินใจได้เร็วกว่าเดิม นอกจากนี้ก็อย่าลืมอ่านความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริงประกอบการตัดสินใจด้วยนะคะ เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่าเครื่องดูดฝุ่นที่เรากำลังจะซื้อนั้นมีคุณภาพสมกับคำโฆษณาของผู้ผลิตจริง ๆ
Leave A Comment