เปิดวาร์ป! หุ่นยนต์ดูดฝุ่นดูดเส้นผมยี่ห้อไหนดี 2020
จะเป็นอย่างไรถ้าโลกของเราเข้าใกล้โลกอนาคตที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีแบบในภาพยนตร์ Sci-fi มากขึ้น โลกที่มนุษย์แทบไม่ต้องขยับตัวแต่มีหุ่นยนต์ AI คอยทำหน้าที่แทน เช่นในวันนี้ราสามารถคิดค้น “หุ่นยนต์ดูดฝุ่น” ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยในการทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างทำความสะอาดได้แล้ว เป็นที่น่าสนใจและน่าติดตามมากว่า ในอนาคตเราจะมีหุ่นยนต์ผู้ช่วยทำอะไรอีกบ้าง
ในบทความนี้ Esto ขอแนะนำและรีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นหลายรุ่น ให้ผู้ที่กำลังมองหาผู้ช่วยทำความสะอาดบ้านได้ตัดสินใจเลือกกัน เพราะแม้จะเป็นเทคโนโลยีใหม่ในรอบไม่กี่ปีมานี้ แต่มีหลายแบรนด์ที่ได้ออกแบบ คิดค้นเจ้าหุ่นยนต์นี้ออกสู่ท้องตลาดกันแล้ว
แน่นอนว่าเรื่องนวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ ๆ ต้องยกให้แบรนด์ Xiaomi จริง ๆ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mi Robot Vacuum รุ่นนี้จาก Xiaomi มีพลังดูดแรง ทำความสะอาดอย่างชาญฉลาดด้วยระบบเซนเซอร์หลายตัวที่สามารถจดจำเส้นทางเพื่อวางแผนการเดินในตัวเอง ดูดฝุ่นสิ่งสกปรก เช่น เส้นผม ขนสัตว์ได้หมดจด ตัวเครื่องไม่สูงมากลอดเข้าใต้เฟอร์นิเจอร์ได้ดี สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi และควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วยแอปพลิเคชัน Mi Home
แม้แบรนด์ Eufy จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในไทย แต่หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Eufy RoboVac 11S รุ่นนี้ ใส่เทคโนโลยีและความสามารถมาไม่แพ้กับแบรนด์อื่นเลย ด้วยเทคโนโลยี BoostIQ ตัวเครื่องฉลาดมากขึ้นเดินทางผ่านพื้นที่ต่างระดับ และพื้นผิวได้หลายรูปแบบ ทำงานควบคู่เซนเซอร์อินฟาเรดเปลี่ยนทิศทางทันทีเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง มีแปรงปัดฝุ่นทั้ง 2 ด้าน ระบบกรองฝุ่น 3 ชั้นประสิทธิภาพสูงพร้อมด้วยกล่องเก็บฝุ่นขนาดใหญ่ 0.6 ลิตร มีรีโมทคอลโทรลสั่งงานครบทุกฟังก์ชัน เช่น ทำความสะอาดอัตโนมัติ, ตั้งเวลาทำความสะอาด, สั่งให้กลับไปแท่น หรือจะสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันของทาง Eufy ก็ได้เช่นกัน
Samsung เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่เคยพลาดที่จะออกนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาให้ผู้บริโภคได้ใช้กัน สำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung VR05R5050WK รุ่นนี้ สามารถทำความสะอาดแบบ 2 in 1 ดูดฝุ่นถูพื้นในคราวเดียว สามารถสลับไปมาระหว่างการดูดฝุ่นและการถูพื้น สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้ สามารถสามารถสั่งเปิด-ปิดเครื่อง ตั้งตารางการทำความสะอาด ปรับแรงดูด และควบคุมความเร็วของการถูพื้นและการไหลของน้ำ แบตเตอรี่ความจุ 3,400mAh สามารถใช้ดูดฝุ่นได้นานถึง 150 นาที
AUTOBOT เป็นแบรนด์ที่ไม่ได้ตีตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ แต่ AUTOBOT Lazer mark 4 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นของแบรนด์นี้นั้นเรียกได้ว่าใส่เทคโนโลยีมาอย่างจัดเต็ม อย่างเช่น Lazer SLAM 2.0 ที่สามารถสร้างกำแพงเสมือน (virtual wall) แบ่งเขตหรือกั้นบริเวณการทำงาน ในแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้เลย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม (แถบแม่เหล็ก) สามารถปรับแรงดูดให้เพิ่มมากขึ้นถึง 8000 pa เป็นระบบดูดแบบ Cyclone มี Battery Li-ion ความจุมากถึง 6400mAh
ECOVACS อีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่ได้ตีตลาดในไทย แต่เป็นที่พูดถึงอยู่มากในต่างประเทศ โดย ECOVACS DEEBOT OZMO 610 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นของแบรนด์นี้ สามารถดูดฝุ่นและถูพื้นไปในตัวได้ มีเซ็นเซอร์ที่ควบคุมการปล่อยน้ำให้ปล่อยอย่างต่อเนื่อง หรือหยุดจ่ายน้ำเมื่อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นกลับเข้าแท่นชาร์จ เปลี่ยนท่อดูด หรือหัวแปรงได้ 2 แบบ และมีโหมดแรงดูดสูงให้เหมาะสมกับสภาพห้อง ด้วยแอปพลิเคชัน ECOVACS Application ทำให้คุณสามารถตั้งเวลาทำความสะอาดล่วงหน้า เลือกโหมดทำความสะอาด ดูสถานะการทำงานจากนอกบ้านได้
iRobot Roomba 605 เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นประสิทธิภาพสูงที่มีระบบทำความสะอาด 3 ขั้นตอน พร้อมแปรงปัดด้านข้างซึ่งหมุนวน และการดูดฝุ่นอันทรงพลังเพื่อกำจัดฝุ่น เส้นผมและสิ่งสกปรกอื่น ๆ จากพื้นแข็งและพื้นพรม มีระบบนำทางอัจฉริยะ iAdapt ใช้เซนเซอร์เต็มประสิทธิภาพเพื่อให้หุ่นยนต์ ทำความสะอาดได้ทั่วถึงทุกซอกมุมภายในบ้าน ด้วยระบบ Cliff-Defection™ sensor ช่วยตรวจจับและป้องกัน Roomba ตกจากพื้นที่ต่างระดับหรือบันได
• ดูดฝุ่นขนาดเล็ก เส้นผมของคนหรือขนสัตว์เลี้ยง โดยไม่ฟุ้งกระจายเหมือนใช้ไม้กวาด
• ลดเวลาทำความสะอาด เช่น หากบ้านมีหลายห้อง สามารถใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นในอีกห้อง และตัวเราไปทำอีกห้องจะช่วยประหยัดเวลาลงได้
จบลงไปกับบทความแนะนำและรีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ผู้จะมาช่วยทำความสะอาดบ้านของเราให้สะอาดมากขึ้น เพราะสามารถเข้าไปยังจุดเล็ก ๆ ที่บางครั้งเราไม่สามารถทำเองได้ รวมถึงฝุ่นผงบางอย่างที่เรามองตาเปล่าแทบไม่เห็น เช่น เส้นผม ขนสัตว์ แต่ไม่สามารถรอดสายตาผู้ช่วยอัจฉริยะเครื่องนี้ไปได้ สิ่งสำคัญในการเลือกซื้อต้องเลือกจากบริษัทที่ไว้ใจได้และตรวจสอบการรับประกันด้วย
Leave A Comment