เทคนิค การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ สำคัญที่สุด ต้องดูตัวเลขค่า CADR – Life Protect Co.,Ltd.

เทคนิค การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ สำคัญที่สุด ต้องดูตัวเลขค่า CADR – Life Protect Co.,Ltd.

ซื้อเครื่องฟอกอากาศ อย่างไรให้คุ้มค่าเงินที่จ่ายไป หัวใจสำคัญที่สุด ให้ดูที่ตัวเลขค่า CADR ของเครื่อง จบข่าวครับ

CADR ย่อมาจาก Clean Air Delivery Rate แปลว่า อัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธ์ เป็นค่าที่บอกประสิทธิภาพการฟอกอากาศที่แท้จริง โดยการนำไปทดสอบในห้องปฏิบัติการ โดยทดสอบกับตัวอย่าง ควันบุหรี่ (Smoke), ฝุ่น (Dust) และ เกสรดอกไม้ (Pollen) ค่า CADR มีหน่วยเป็นมาตรฐานเป็น CFM (Cubic Feet per Minute)

เอาตรงๆ ก็คือ เครื่องฟอกอากาศเครื่องใดที่มีค่า CADR สูงกว่า ย่อมให้ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศสูงกว่า แค่นั้นเองครับ

“ อ้าวเฮ้ย !! ..แล้วตรู จะรู้ได้ยังไงฟะ ว่าค่า CADR ที่พวกเอ็งกล่าวอ้างมากับเครื่องฟอกอากาศ ที่เอ็งเอามาขายนั้น นั้นคือค่าจริง ไม่ได้นั่งเทียน เขียนโม้กันขึ้นมาเอง ??? ”

“ไม่ได้โม้ครับ” ในสหรัฐอเมริกา เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อดังๆ ใหญ่ๆ ที่ขายกันส่วนมาก เขาจะนำเครื่องของตัวเองไป ทดสอบหาค่า CADR จากสถาบันที่น่าเชื่อถืออย่าง สถาบัน AHAM (Association of Home Appliance Manufacturers) * ใช่สถาบัน “ อะแฮ่ม ” รึปล่าว ผมออกเสียงถูกรึปล่าวก้อไม่รู้

ถ้าใครอยากรู้ละเอียด ก็เชิญเข้าไปตรวจสอบ อ่านภาษาฝรั่งมังค่า ได้จากที่ Website นี้เลยครับ

มีคำแนะนำ ปริมาณของค่า CADR ที่เหมาะสมกับขนาดห้องของคุณ โดยที่สถาบันอะแฮ่ม AHAM แนะนำว่าค่า CADR ควรจะมีค่ามากกว่า 2 ใน 3 ของพื้นที่ห้อง โดยให้เอาพื้นที่ของห้อง วัดออกมาหน่วยเป็นตารางฟุต (ft2) หารด้วย 1.5 ผลลัพท์คือค่า CADR ที่ควรจะได้นั่นเอง หรือหากกลับกันเอาค่า CADR คูณ 1.5 ผลลัพท์ก็จะเป็นขนาดพื้นที่ห้องที่ควรจะใช้ มีหน่วยเป็นตารางฟุต (ft2) แล้วนำมาแปลงเป็นตารางเมตร (m2) ด้วยการคูณ 10.764

จะบอกว่า ไอ้ค่า CADR ในเครื่องฟอกอากาศนี้มันจะมี 3 ค่าด้วยกัน คือค่าของฝุ่น ค่าของควันบุหรี่ และค่าของเกสรดอกไม้ ให้เราเอาค่าของควันบุหรี่มาคำนวณ เนื่องจากว่าควันบุหรี่ใช้เวลานานที่สุดในการฟอกอากาศ ตัวอย่าง CADR 3 ค่า ตามรูปด้านล่างครับ

เราลองไปเดินๆ ดูเครื่องฟอกอากาศที่เขาวางโชว์ตามห้างสรรพสินค้า หรือตามที่มาออกบูธดูซิครับ เราจะไม่ค่อยเจอเครื่องฟอกอากาศที่ เปิดเผยตัวเองเรื่องค่า CADR แบบตามในรูปข้างบนหรอกครับ เพราะที่ผ่านมาผู้คนให้ความสนใจในเรื่องค่า CADR กันน้อยมาก บางเครื่องอาจจะมีบอกใว้เพียงค่าเดียวที่ฉลากด้านหลังเครื่อง ถ้าเห็นเพียงค่าเดียวให้อนุมานได้เลยว่าค่า CADR ที่เห็นนั้น ตือค่าควันบุหรี่

เอาละ… เริ่มแรกให้แปลงตารางเมตร (m2) เป็นตารางฟุต (ft2) ก่อน ซึ่ง 1 ตารางเมตรเท่ากับ 10.764 ฟุต ดังนั้นจึงให้นำ 25 คูณด้วย 10.764 จะได้ผลลัพท์ = 269.1 ตารางฟุต (ft2) แล้วนำค่าที่ได้มาหารด้วย 1.5 ก็จะเท่ากับ 179.4 ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (CFM) ซึ่งก็คือค่า CADR ที่เหมาะสมกับห้องขนาด 25 ตารางเมตรนั่นเอง โดยบางยี่ห้อเขาใจดี ก็แปลงหน่วยจาก ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (CFM) เป็นลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (M3/H) มาให้เราเรียบร้อยเลย

แต่ๆๆๆ….มีตัวแปรสำคัญอันนึงที่สำคัญ นั่นคือค่า CADR นั้นถูกคำนวณมาภายใต้ พื้นฐานของห้องที่มีเพดานสูง 2.4 เมตร เป็นมาตรฐานในการคำนวณ (ที่ค่ามาตรฐาน ต้องเป็น 2.4 เมตรไม่ใช่ 2.5 เพราะว่าค่านี้มากจากองกรค์อะแฮ่ม (AHAM) ของอเมริกาที่เขาใช้สูตร 8 ฟุต แปลงเป็นเมตรตรงๆ เลย มันได้ประมาณ 2.4 เมตร) เนื่องจากปริมาตรเกิดจากความ กว้าง x ยาว x สูง ดังนั้นเมื่อรู้ความสูงจึงเหลือแต่พื้นที่ที่ต้องหา ซึ่งอะแฮ่ม (AHAM) ก็แนะนำว่าค่า CADR ควรจะมีค่ามากกว่า 2 ใน 3 ของพื้นที่ห้อง (อย่าลืมว่าภายใต้มาตรฐานว่าห้องสูง 2.4 เมตรนะ!! ถ้าห้องสูงเกินกว่านี้ต้องใช้ค่า CADR สูงกว่านี้) สรุปง่ายๆ ก็คือเอาพื้นที่ห้องเป็นตารางฟุต (ft2) หารด้วย 1.5 คือ CADR ที่ควรจะได้ หรือเราเอา CADR คูณ 1.5 ก็เป็นค่าพื้นที่ห้องที่ควรจะได้เป็นตารางฟุต (ft2) แล้วจากนั้นเราค่อยเอามาแปลงเป็นตารางเมตร (m2) โดยคูณ 10.764

อย่างที่บอกใว้ครับ..บางยี่ห้อเค้าใจดี แปลงค่า CADR จากลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (CFM) มาเป็นลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (m3/h) มาให้ (แล้วมันจะแปลงมาทำไมว้า..) ก็คือเค้าเอา CADR ที่เป็น ลบ.ม.ต่อ ชม หารด้วย 12 ก็จะเป็นค่าพื้นที่เป็นตารางเมตรที่มากสุดของเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมจะใช้ในห้องนั้น เช่น พื้นที่ห้องอยู่ที่ 25 ตร.ม. ค่า CADR ก็ควรจะไม่ต่ำกว่า 25*12 = 300 เป็นต้นครับ

ข้อมูลการเขียน บางอันผมก็ลอกเขามา บางอันก็ค้นหาจาก Website ฝรั่ง มาผนวกกับประสบการณ์ที่ทำงานกับบริษัทเครื่องมือแพทย์ และบริษัทฝรั่งงยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ ที่คิดค้นเครื่องปรับอากาศเป็นรายแรกของโลก (รวมๆ กันยี่สิบกว่าปี)

Leave A Comment

Copyright © 2023 electricalleaf.com. All rights reserved.