รีวิว Mister Robot Hybrid หุ่นยนต์ดูดฝุ่น และ ถูพื้น ในเครื่องเดียว
บทความ รีวิว หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ก็ เชื่อว่า ยุคนี้ พรรษานี้ หลายคน คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่เรียกว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น และปัจจุบันนี้ มันก็ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นจะต้องมีอีกชิ้นหนึ่ง เหมือนตู้เย็น เตาไมโครเวฟ ที่ทุกบ้านต้องมีไปแล้ว ซึ่งผมเองก็ได้มีโอกาสรีวิวผ่านมือมาแล้วเกินกว่า 10 เครื่อง เช่นกัน ซึ่งปจจุบันทาง ผู้ผลิต คิดค้น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น จึงช่วงชิงกันด้วย ความสามารถที่โดนเด่น โดยการ เติมความสามารถตรงโน้นนิด ตรงนี้หน่อย เพื่อเป็นจุดเด่นที่ทำให้ เหนือคู่แข่ง
และแน่นอน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่ผมเอามันมารีวิวตัวนี้ ก็ได้เพิ่มความแปลกใหม่ ความว้าว ! ให้มีความซับซ้อนมากขึ้น ไปอีกขั้น นั่นคือ มันสามารถเป็นได้ทั้ง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น (Robot Vacuum Cleaner) และ หุ่นยนต์ถูพื้น (Floor Mopping Robot) ได้ในตัว มีชื่อว่า Mister Robot Hybrid นั่นเอง
โดย หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ตัวนี้ มีความสามารถในการดูดฝุ่นด้วยแปรงกวาดหลักแบบเกลียว นอกจากนี้ยังมี แปรงข้างทั้ง 2 ฝั่ง (ซ้าย และ ขวา) และยัง เสริมความสามารถเข้าไปอีกขั้นด้วย ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์แบบเปียก (Micro-Fiber Wet Cloth) ที่ติดห้อยท้ายอยู่ด้านหลัง พร้อมกับถังน้ำ (Water Tank) ขนาดความจุ 0.3 ลิตร (300 cc) เพื่อให้ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ นั้น มีความชุ่มชื้น อยู่ตลอดเวลา พูดง่ายๆ คือ ซื้อ 1 เครื่อง เหมือนได้ 2 เครื่องคือ ดูดฝุ่น และ ถูพื้น ในตัวเดียวกันเลยทีเดียว
เนื่องจากบทความรีวิวนี้ยาวมากๆ (พอดีผมเขียนมันส์ไปหน่อย) หากจะอ่านจากบนลงล่างทั้งหมด อาจจะเสียเวลา เกือบชั่วโมง (แต่ถ้าใครอ่านได้ ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งนะครับ) ด้านล่างนี้เป็นเมนูลัด ที่ผมตระเตรียมเอาไว้ ให้สามารถเข้าถึงเนื้อหา ต่างๆ ได้อย่างสะดวก และ รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ด้านล่างนี้ เป็นคลิปวีดีโอ ที่ผมทำเอาไว้ มีทั้งการแนะนำอุปกรณ์แต่ละชิ้นในกล่อง และ สาธิตวิธีการใช้งานในด้านต่างๆ ลองดูกันก่อนได้เลยนะครับ
คุณสามารถทำความรู้จักกับ ประวัติที่มาที่ไปของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot ให้มากกว่านี้ พร้อมรายละเอียดติดต่อ สถานที่สั่งซื้อ ฯลฯ ได้ที่ลิงค์เชื่อมต่อไปยังหน้ารายละเอียดด้านล่างนี้เลย
ทุกครั้งที่ผมได้ทำรีวิว ไม่ว่าจะเป็นสินค้า หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้า อะไรก็ตาม ผมจะถ่ายรูปกล่องผลิตภัณฑ์สินค้าอย่างละเอียดตั้งแต่ก่อนแกะกล่อง ไปจนถึงแกะกล่องออกมาแล้ว แสดงอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องทั้งหมด ละเอียดยิบแบบ ทุกซอกทุกมุมกันเลยทีเดียว และสำหรับ รีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ชุดนี้ก็ไม่พลาดเช่นกัน มาดูกันเลย
ด้านนอกกล่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ตัวนี้มาพร้อมกับกล่องโทนสีขาวนวล ดูสะอาดตา การออกแบบกล่อง ดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูสวยงาม และ ทันสมัย ไม่รกรุงรัง และ เกะกะลูกตา
ซึ่งคำว่าไฮบริด ในที่นี้หมายถึง การผสมผสานกันระหว่าง การดูดฝุ่น (Vacuum Cleaning) และ การถูพื้น (Floor Mopping) อยู่ในเครื่องเดียวกัน นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีโลโก้สินค้า อยู่ที่หัวมุมด้านซ้ายบน ของทั้งด้านหน้า และ หลัง กล่องผลิตภัณฑ์ อีกด้วยเช่นกัน
ส่วนตรงแถบ QR Code ที่อยู่ด้านมุมซ้ายล่าง นั้น ผมทดลองยิงสแกน QR Code ดูแล้วพบว่า มันก็จะพาไปที่อยู่ของเว็บไซต์ ของผู้จัดจำหน่ายนั่นเอง นั่นก็คือที่
นอกจากนี้ข้างกล่องของมัน ทางด้านขวา จะมีบอกความสามารถที่โดดเด่นของมันอยู่ทางด้านขวาของกล่อง ส่วน ทางด้านซ้าย จะเป็นข้อมูลจำเพาะสเปคของเครื่องพอสังเขปทั่วๆ ไป พร้อมกับรูป
คราวนี้มาดูส่วนประกอบด้านใน ที่เขาให้มาดูกันบ้าง เมื่อแกะฝากล่องที่อยู่ด้านบนแล้ว ก็จะพบว่า กล่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid จะเป็นการเปิดฝากล่อง เปิดขึ้นมา (ไม่ต้องลำบากดึงกล่องโฟม ที่อยู่ด้านในออกมา)
และ เมื่อเปิดฝากล่อง มาแล้วก็จะพบกับ แผ่นโบรชัวร์แนะนำสินค้า ที่ได้บอกถึง คุณสมบัติเด่น จุดเด่น ของ Mister Robot Hybrid ตัวนี้ และ ยังมาพร้อมกับ คู่มือการใช้งานเป็นภาษาไทย อย่างละเอียด วิธีการดูแลรักษา วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น คำเตือนต่างๆ เป็นภาษาไทย พร้อมรูปภาพประกอบ ซึ่งถือว่าละเอียดมากๆ ทั้งหมดถูกอยู่ในห่อพลาสติกอย่างดี เหมือนมีศูนย์บริการ อยู่ที่บ้านคุณเลย
หลังจากนั้น ผมก็ได้หยิบเอา อุปกรณ์และส่วนประกอบต่างๆ ทั้งหมด ที่มีอยู่ในกล่อง ออกมาตั้งแสดงเรียงราย ให้เห็นกันแบบชัดๆ ว่ามีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย ตามหมายเลขที่ได้ระบุเอาไว้ด้านล่างนี้
• Mister Robot Hybrid (หุ่นยนต์ดูดฝุ่น – 1 เครื่อง) : ตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทรงกลม ที่จัดได้ว่ามีรูปทรงเล็กกว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วๆ ไป มันมีขนาดแค่ 310 x 310 x 76 มิลลิเมตร แน่นอนว่า ข้อดีของมันก็คือ มันจะสามารถวิ่งมุด ทะลุทะลวง พื้นที่แคบๆ ได้ดี คล่องแคล่วกว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตัวใหญ่ๆ ที่มีขนาดเทอะทะ เป็นแท้นอกจากนี้แล้วตัวเครื่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ก็ยังมาพร้อมกับสีทองคำสีกุหลาบ หรือ “ ” ที่เหมือน iPhone 6s เข้าไปทุกทีแล้ว
• Charge Base (แท่นชาร์จ – 1 ชุด) : อุปกรณ์นี้เรียกว่า “แท่นชาร์จ” บางคนอาจจะเรียกว่า “ฐานชาร์จ” เป็นชุดอุปกรณ์ถ่ายทอดพลังงานจากไฟบ้าน (AC) เข้าสู่เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เพื่อใช้งานภายใน (DC) โดยผ่านขั้วโลหะด้านล่างของเครื่องที่เป็นที่ชาร์จไฟเข้าสู่ตัวเครื่อง (ควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดขั้วโลหะ อยู่เป็นประจำ) และโดยปกติเวลาไม่ได้ทำงาน มันจะจอดอยู่ที่นี่ตลอดเวลา เปรียบเสมือนเป็นบ้านของมัน นั่นเอง ถ้าหากคุณสั่งงานให้มันออกไปปฏิบัติงาน ดูดฝุ่น ทำความสะอาดแบบตั้งเวลา เมื่อถึงเวลาที่คุณตั้งเวลา เอาไว้มันก็จะวิ่งออกจากแท่นชาร์จ ตัวนี้เพื่อไปทำความสะอาดห้องโดยอัตโนมัติ และ วิ่งกลับเข้ามาเองโดยอัตโนมัติ หากทำความสะอาดเสร็จแล้ว หรือ แบตเตอรี่ใกล้จะหมด
• Remote Control (รีโมทคอนโทรล – 1 อัน) : รีโมทคอนโทรล เป็น อุปกรณ์สั่งงานระยะไกล ที่จะมาคอยช่วย อำนวยความสะดวกการใช้งาน Mister Robot Hybrid ให้เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น ซึ่งตัว รีโมทคอนโทรล ตัวนี้ ถือว่าสำคัญมากๆ เพราะว่าลำพังแค่ ปุ่มควบคุม บนตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเอง ไม่สามารถสั่งงานอะไรได้มากมาย เพราะมีเพียงแค่ ปุ่มสั่งเปิดปิดเครื่อง เท่านั้น ดังนั้น การสั่งงานในรายละเอียดปลีกย่อยนั้น จะต้องทำผ่านรีโมทคอนโทรล ตัวนี้เท่านั้นรีโมทคอนโทรลชุดนี้ คุณจะสามารถ บังคับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นระยะไกล ในระยะสายตา คุณสามารถสั่งงานมันได้ครบทุกฟังก์ชั่นจากรีโมทคอนโทรล อาทิ เปลี่ยนโหมดการดูดฝุ่น บังคับทิศทาง เดินหน้า ถอยหลัง เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือ สั่งเรียกให้มันวิ่งกลับแท่นชาร์จอัตโนมัติ ได้ง่ายๆ อีกด้วยเช่นกัน
• Spare Side Brush (ชุดแปรงกวาดข้าง สำรอง – 2 แปรง) : แปรงกวาดด้านข้างชุดสำรอง เผื่อมาให้ใช้อีก 2 ชิ้น (1 ชุด) ซึ่งจริงๆ แล้วมีติดตั้งอยู่ที่ตัวเครื่องแล้วชุดนึง แต่นี่ก็ยังได้ให้สำรองมาให้อีก 1 ชุด (แปรงข้างด้านซ้าย และ ขวา) ซึ่งเวลาจะถอดออก ก็จะต้องใช้ ไขควง 4 แฉก (ขนาดมาตรฐาน) โดยเพียงแค่ ไขน๊อตที่ยึดติดอย่างแน่น ออกมา ซึ่งก็ไม่ได้ยากอะไร ใครๆ ก็ทำได้
• Charging Adapter (ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ – 1 ชุด) : ชุดอะแดปเตอร์ หรือ ตัวแปลงไฟฟ้า พร้อม สายชาร์จ ความยาว 1.5 เมตร มาให้ ตัวนี้จะแปลงไฟจากไฟบ้าน ที่สามารถใช้ได้ทุกประเทศ (ได้ทั้ง 110V และ 220V) มาเป็นไฟที่ใช้ภายในเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น (DC 19V 0.5A) ดูจากขนาดของแอมป์มันแล้ว ถือว่ากินไฟต่ำมากๆถ้าหากสังเกตดูจากตัวเลข ปริมาณไฟที่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้บริโภคแล้ว ถือว่าน้อยมากๆ ดังนั้นหากใช้งานแล้วไม่ต้องกลัวค่าไฟขึ้นเลย มันแทบจะมีผลกับค่าไฟน้อยเอามากๆนอกจากนี้แล้ว ยังสามารถเอา ชุดอะแดปเตอร์ นี้ไปเสียบชาร์จไฟ ได้ทั้งกับ แท่นชาร์จ หรือ ชาร์จเข้าเครื่องโดยตรงเลยก็สามารถทำได้ เช่นกัน
• Cleaning Brush (แปรงทำความสะอาดตัวเครื่อง – 1 แปรง) : อุปกรณ์ชิ้นนี้มีเอาไว้ใช้ ทำความสะอาด ปัดฝุ่น เศษเส้นผม ต่างๆ ที่ติดอยู่ที่ตัวเครื่องเอง เพื่อไม่ให้ฝุ่นละออง หรือ เส้นผมเหล่านี้ เป็นอุปสรรค ที่จะทำให้ประสิทธิภาพการทำความสะอาดของเครื่องนั้นลดลง โดย แปรงทำความสะอาดเครื่อง ชุดนี้นั้น จะมี 2 ฝั่ง ฝั่งนึงจะเป็นแปรงแบบขน และ อีกฝั่งจะเป็นแปรงพลาสติกแข็ง (เหมือนไม้เกาหลัง) เพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปตามสถานการณ์
• Micro-Fiber Mopping (ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ ติดท้ายเครื่อง สำรอง – 1 ผืน) : นอกจากผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ ที่ให้ติดมากับ ชุด ที่ติดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์พร้อมถังน้ำ แล้ว เขายังให้สำรองมาอีก 1 ผืน เผื่อในกรณีที่ผืนที่ใช้แล้วกำลังซักอยู่ สามารถใช้ผืนสำรอง ไปก่อนได้เลย ไม่ต้องรอ
• Mopping Device with Water Tank (ที่ติดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์พร้อมถังน้ำ – 1 ชุด) : พระเอกของงาน คือ ชุดถูพื้นแบบเปียก เป็นออปชั่นเสริม ที่มาพร้อมกับถังน้ำขนาด 0.3 ลิตร (300 มิลลิลิตร – mL) แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีส่วนของ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dustbin) ที่เก็บฝุ่นอยู่ด้วย ซึ่งความจุของ ถังเก็บฝุ่น เช่นกัน แต่อันนี้จะมีขนาด 0.23 ลิตร (230 มิลลิลิตร – mL) เท่านั้นส่วนประกอบด้านบนจะ มีฝาที่เปิดใส่น้ำลงถัง (Fill Cap) อยู่ด้านบน พร้อมกับที่บอกระดับน้ำ อยู่ด้านหลังของกล่องว่า ปริมาณน้ำเหลืออีกกี่มิลลิลิตร (mL) แล้ว ตั้งแต่ 300 mL 200 mL และ 100 mL
• Spare HEPA Filter (แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง สำรอง – 1 แผ่น) : ในกล่องผลิตภัณฑ์ เขามี แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง หรือที่เรียกว่า แผ่นกรอง HEPA ให้สำรองมาอีก 1 ชุด (ของจริงอยู่ใน กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง แล้ว – 1 ชุด) เผื่ออันนึงล้างทำความสะอาดอยู่ หรือ เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน ก็ยังมีแผ่นกรองอากาศ อีกชุดที่สามารถใช้ทดแทนกันได้ แบบไม่ขาดตกบกพร่อง
ในส่วนนี้จะกล่าวถึง คุณสมบัติ และ ความสามารถหลัก 15 ข้อ !! ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ตัวนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้ ผมได้สรุปข้อมูลมาจาก 3 แหล่งด้วยกันคือ 1. ข้างกล่อง 2. คู่มือการใช้งาน และ 3. จากการทดสอบใช้งานเองจริงๆ
• : แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (Lithium-Ion) ที่มี ความจุ 2,600 มิลลิแอมป์ (แบตเตอรี่ของ iPhone 6S Plus มีอยู่ที่ 2,750 mAh) สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานสูงสุดถึง 3 ชั่วโมง (180 นาที) หรืออาจจะมากกว่านั้นนิดหน่อย และ ระยะเวลาชาร์จ อยู่ระหว่าง 6-8 ชั่วโมง นอกจากนี้แล้ว คุณสมบัติของ แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (Lithium-Ion หรือ Li-Ion) ที่ให้มากับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ก็ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า และยัง มีการจ่ายไฟที่คงที่ มีเสถียรภาพกว่า แบตเตอรี่แบบนิเกิลเมทัลไฮไดรด์ (Nickel–Metal Hydride หรือ Ni-MH) เยอะอยู่พอสมควร (ดูจากภาพตารางเปรียบเทียบด้านบน)
• : มีเซ็นเซอร์ตรวจจับ และ ป้องกันการชนสิ่งของต่างๆ รอบตัวเครื่อง ทำให้มั่นใจได้เลยว่า การทำงานของมัน จะไม่สร้างความเสียหายใดๆ ให้กับตัวเครื่องมันเอง และ เฟอร์นิเจอร์ สิ่งของต่างๆ ภายในบ้านของคุณอย่างแน่นอน
• : มี ระบบกรองฝุ่น ด้วย แผ่นกรองอากาศ 3 ชั้น เพราะก่อนตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น จะปล่อยลมที่ดูดเข้ามาพร้อมกับฝุ่นละออง ออกกลับสู่บรรยากาศห้องอีกครั้ง โดย ทางผู้ผลิตเขาได้มี แผ่นกรองอากาศ HEPA กรองฝุ่นให้ก่อนปล่อยออกมา เป็นชั้นสุดท้าย ด้วย เพื่อที่จะให้อากาศที่ถูกปล่อยออกมานั้นสะอาดบริสุทธิ์ จริงๆ ได้แก่
• : มีแผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง HEPA ซึ่งเป็นแผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง ที่สามารถกรองฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็กกว่า 0.03 ไมครอน ได้สูงสุดถึง 99.97% เลยทีเดียว แน่นอนว่า มันสามารถกรอง อนุภาคขนาดเล็กมากๆ ได้หมด แม้แต่ เชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก อย่าง H1N1 หรือแม้แต่ SARs ก็สามารถกรองได้
• : ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ ขนาดซุปเปอร์จัมโบ้ ซึ่งทางผู้ผลิตเขาบอกว่า ของ Mister Robot Hybrid ตัวนี้ ให้มาขนาดใหญ่มากๆ มีหน้าสัมผัสกับพื้นที่มากเช่นกัน ดังนั้นประสิทธิภาพการถูพื้นละก็หายห่วงเลย
• : เทคโนโลยี ที่สร้างความโดดเด่น และ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ของ หุ่นยต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid นี้ อยู่ที่ข้อนี้เลย เพราะนอกจากจะดูดฝุ่นทำความสะอาดได้แล้ว มันยังสามารถเป็น หุ่นยนต์ถูพื้น ได้ในตัวอีกด้วย มันมาพร้อมกับ ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ พร้อม ระบบการหยดน้ำลงมา จากถังน้ำ (Water Tank) ขนาด 0.3 ลิตร ลงมาที่ผ้าเบาๆ ทีละนิด เพื่อให้ ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ (Micro-Fiber Wet Cloth) มีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับการถูบ้านด้วยผ้าขี้ริ้ว จริงๆ (บางทียังไม่ดีเท่านี้เลย)
• : หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ขณะทำงาน มีระดับเสียงที่เงียบมากๆ เพราะอีกปัญหายอดฮิตของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่ประสบพบกันคือ ปัญหาเรื่องของเสียง บางตัวแม้จะดูดดี ดูดแรง แต่ขณะทำงานเสียงดังมากๆ จนต้อง ย้ายห้องหนี ขณะเครื่องดูดฝุ่นเข้ามาทำงานเลยทีเดียว แต่ตัวนี้เรื่องเสียงหายห่วงเลย วัดระดับออกมาแล้ว อยู่ประมาณไม่เกิน 65 เดซิเบล (dB) แน่นอน
• : มีโหมดฟังก์ชั่น การทำงานให้เลือกใช้บริการกันมากถึง 7 โหมด ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
• AUTO Mode (โหมดทำความสะอาดอัตโนมัติ) : การทำความสะอาดแบบวิ่งทั่วทั้งบริเวณห้อง โดยภารกิจ ของโหมดนี้คือ วิ่งทำความสะอาดทั่วอาณาบริเวณห้อง โดยอัตโนมัติ และ เมื่อเจอพื้นที่ว่าง ที่มันสามารถซอกซอน ชอนไช เข้าไปได้ อย่างว่องไว และ คล่องแคล่ว และจะกลับเข้า แท่นชาร์จโดยอัตโนมัติ ต่อเมื่อ 2 กรณีคือ
• SPOT Mode (โหมดทำความสะอาดเฉพาะจุด) : การทำความสะอาดเฉพาะจุด จะเป็นการทำความสะอาดในพื้นที่ ที่อยู่รอบๆ ตัวเครื่อง โดยมันจะทำความสะอาดในรัศมีประมาณไม่เกิน 2 เมตร จากจุดเริ่มทำงาน หรือ จุดสตาร์ท และเมื่อเสร็จ ก็จะกลับมายังจุดเริ่มต้นเหมือนเดิม
• EDGE Mode (โหมดทำความสะอาดเลาะขอบกำแพง) : โหมดวิ่งทำความสะอาดเลาะขอบกำแพง หรือ “Along Wall Mode” เมื่อกดปุ่มการทำงานในโหมดนี้ ตัวเครื่องจะวิ่งเข้าหาขอบกำแพง (Wall Edge) และเริ่มวิ่งลัดเลาะ ตามขอบกำแพงทันที เหมาะสำหรับการทำความสะอาดเศษฝุ่นละออง ที่ตกค้าง อยู่ข้างๆ ซึ่งมักจะมีเยอะแน่นอน
• MAX Mode (โหมดทำความสะอาดเต็มกำลัง) : โหมดเดินเครื่องเต็มกำลัง แบบนี้จะเหมาะมากๆ ในเวลาที่คุณเพิ่งกลับมาจากการไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศ เป็นเวลาหลายวัน กดโหมดนี้เพื่อ ให้เครื่องทำความสะอาด แบบรีดประสิทธิภาพสูงสุด ของมันออกมา สะอาดสุดๆ แต่ก็จะเปลืองแบตเตอรี่ มากเช่นกัน
• HOME Mode (โหมดกลับบ้าน) : คุณสามารถกด “ปุ่ม HOME” ที่เป็นสัญลักษณ์รูปบ้าน เพื่อเรียก Mister Robot Hybrid ที่กำลังทำความสะอาดอยู่ ให้กลับเข้าไปที่แท่นชาร์จ โดยมันจะหยุดระบบการดูดฝุ่น และ เริ่มค้นหาแท่นชาร์จโดยอัตโนมัติทันที ที่ได้รับคำสั่ง จากคุณ
• DIRECTION Mode (โหมดควบคุมทิศทางเอง) : ในโหมดนี้ อาจจะเรียกว่า “Manual Mode” ก็ได้ เพราะคุณจะสามารถสั่งงานเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ให้วิ่งไปในทิศทางที่ต้องการได้เอง ผ่านปุ่มขึ้น ลง ซ้าย ขวา ที่อยู่ส่วนบนของรีโมทคอนโทรล
• : รีโมทคอนโทรล อุปกรณ์เล็กๆ ที่สามารถใช้สั่งงานเครื่องได้ ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวลาการทำความสะอาด สั่งงานเครื่องแบบโหมดควบคุมทิศทางของเครื่องเอง หรือ แม้แต่การปรับเปลี่ยนโหมดการทำความสะอาดอัตโนมัติ ก็สามารถควบคุม สั่งงานเครื่องได้ที่นี่เช่นกัน
• : มีกันชนหน้า ไว้ดูดซับแรงกระแทก ระหว่างตัวเครื่อง และ เฟอร์นิเจอร์ สิ่งของต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายใดๆ
• : ด้วยความสามารถที่มีล้อขับเคลื่อนขนาดใหญ่ และ มีระยะให้ตัวขยับเขยื้อน ค่อนข้างมาก จึงทำให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้สามารถวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับได้มากถึง 15 มิลลิเมตร (mm.) หรือประมาณ 1.5 เซ็นติเมตร (cm.) เลยทีเดียว
• : แปรงข้าง ทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งซ้ายและขวา ขนาดยาวมากๆ มี 3 แฉก และ แต่ละแฉกยาวถึง 7.0 เซนติเมตร ทำให้ช่วยกวาดฝุ่น ที่อยู่ตามขอบกำแพง ขอบมุมห้อง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• : ความสามารถในการตั้งเวลาทำความสะอาดล่วงหน้า ก่อนที่เราจะกลับบ้าน หรือ ไม่อยู่บ้านไปต่างจังหวัด หรือ ต่างประเทศได้ โดยที่เราไม่ต้องเดินไปกดเปิด หรือ สั่งมันทำงานทุกวัน เพียงแค่ตั้งเวลาที่เหมาะสมเอาไว้ เช่นทุกๆ 18.00 น. (หกโมงเย็น) ของทุกวัน ให้มันออกมาทำความสะอาดเองอัตโนมัติ และกลับไปยังแท่นชาร์จเองเมื่อเสร็จสิ้น แต่การที่จะใช้งานในโหมดนี้ได้ จะต้องตั้งเวลาให้กับตัวเครื่องก่อนนะ
• : การบำรุงรักษาเครื่องสามารถทำได้ง่าย โดย อุปกรณ์ทำความสะอาดทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็น แปรงกวาดหลัก (Main Brush) แปรงข้าง (Side-Brush) กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dustbin) ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ (Micro-Fiber) ถังเก็บน้ำ (Water Tank) หรือแม้แต่ แผ่นกรองอากาศ คุณภาพสูง HEPA สามารถถอดออกมาทำความสะอาด ได้ทั้งหมด
หลังจากที่เราได้เห็นอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีมาให้ในกล่องผลิตภัณฑ์ ในหัวข้อก่อนหน้านี้ทั้งหมด อย่างละเอียด กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลองมาสำรวจดูที่ตัวไฮไลท์ ที่ถือว่าเป็นพระเอกสำคัญกันดีกว่า นั่นคือตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น นั่นเอง
ขอเริ่มจากด้านบนหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้กันก่อนเลย โดย หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ตัวนี้ ถือว่าเป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่มีการออกแบบด้านบน ที่เรียบง่ายที่สุดแล้ว ตั้งแต่ผมเคยเจอมา โดยมันมีส่วนประกอบหลักๆ อยู่แค่ 3 อย่างด้วยกัน ขออธิบายตามหมายเลข ที่กำหนดอยู่ในรูปเลย
• Front Bumper (กันชนหน้า) : กันชนหน้าตัวเครื่อง ที่เอาไว้ใช้ดูดซับแรงกระแทก ระหว่างตัวเครื่อง กับ เฟอร์นิเจอร์ ลดโอกาส การเกิดความเสียหายลงไปได้มากทีเดียว
• Ventilator (ช่องระบายอากาศ) : ช่องที่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ปล่อยลมออกมา จากที่ดูดอากาศเข้าไป จะปล่อยออกมาทางนี้ ซึ่งอากาศก่อนปล่อยนั้น ผ่านการกรองโดย แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง HEPA ถึง 3 ชั้น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้แล้ว ด้านข้างของตัวเครื่อง ก็ยังมี สวิตซ์เปิดปิดเครื่องหลัก พร้อม ช่องเสียบชาร์จไฟตรง ไว้ให้บริการอีกด้วยเช่นกัน ข้อดีคือ ทางผู้ผลิต เขาเอาไว้ด้านข้าง ไม่ต้องยกเครื่องหงายตะแคงขึ้นให้ลำบาก ลองดูจากรูปประกอบด้านล่างได้เลย
• Power Swtich (สวิตซ์เปิดปิดเครื่องหลัก) : ปุ่ม สวิตซ์เปิดปิดเครื่องหลัก ที่อยู่ทางด้านข้างของตัวเครื่อง ซึ่งอันที่จริงแล้ว ไม่ควรปิด จะปิดก็ต่อเมื่อ คิดว่าเราจะไม่ใช้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เป็นระยะเวลานานๆ จึงควรปิดการจ่ายไฟ จากแบตเตอรี่ ลงตัวเครื่อง แต่ถ้าหาก ใช้งานอยู่เป็นประจำ ก็ควรเปิดทิ้งเอาไว้เลย แล้วเปิดการทำงานเครื่องโดย กดที่ปุ่มทำความสะอาดแทน
• DC Jack (ช่องเสียบไฟตรงกับอะแดปเตอร์) : หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ตัวนี้ ยังให้คุณได้สามารถต่อไฟตรงจากอะแดปเตอร์ (Adapter) ที่แปลงไฟบ้าน (AC) มาเป็นไฟที่ใช้กันภายในหุ่นยนต์ดูดฝุ่น (DC) ให้โอกาสคุณ ในกรณีที่คุณลืมเอาแท่นชาร์จมา หรือ แท่นชาร์จเสีย ก็สามารถต่อไฟตรงได้เช่นกัน เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ผู้ผลิตเขาเตรียมมาให้
ส่วนประกอบด้านล่าง ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid
มาดูกันที่ส่วนประกอบด้านล่างของ Mister Robot Hybrid กันดูบ้าง ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง เพราะว่าด้านล่างนี้ ถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุด ของ หุ่นยนต์ทำความสะอาด ทุกรุ่น ทั้ง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น หุ่นยนต์ถูพื้น เพราะกลไกการดูดฝุ่น และ ถูพื้น ก็อยู่ที่ส่วนล่างตรงนี้นั่นแหละครับ โดยขออธิบาย ตามหมายเลขที่ปรากฏอยู่ในรูปอีกเช่นเคยนะ
• Floor Sensors (เซ็นเซอร์กันตก) : เซ็นเซอร์ป้องกันเครื่องตกหล่นจากที่สูง กันตกบันได เป็นต้น ถือเป็นส่วนประกอบพื้นฐาน ที่มีความสำคัญมากๆ และ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทุกตัวต้องมี ! โดย Mister Robot Hybrid ตัวนี้ เขามีเซ็นเซอร์กันตก มาให้ 3 ตำแหน่ง ด้วยกัน ได้แก่ ด้านซ้าย ขวา และ หน้า นั่นเอง
• Caster Wheel (ล้อเลื่อน) : ล้อเลื่อน ที่เอาไว้ใช้ในการ รับน้ำหนักของตัวเครื่องด้านหน้า มันสามารถหมุนรอบตัว 360 องศา ได้อย่างอิสระ แต่ไม่สามารถส่งกำลังในการขับเคลื่อนได้ จุดเด่นของ รุ่น Hybrid นี้คือ มีล้อเลื่อน ที่มีขนาดใหญ่พอสมควร ถ้าเทียบกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวอื่นๆ จึงทำให้วิ่งทำความสะอาดได้ดีขึ้น ไม่ติดขัด
• Charge Pins (จุดสัมผัสแท่นชาร์จ) : จุดที่เป็นโลหะสีเงินๆ 2 จุดนี้จะใช้เป็นจุดที่เวลาเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น วิ่งกลับมาที่แท่นชาร์จ มันก็จะนำเอา จุดสัมผัสแท่นชาร์จ ตัวนี้ไปสัมผัสกับ จุดสัมผัสหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่อยู่ที่แท่นชาร์จ นั่นเอง เพื่อเป็นการถ่ายทอดพลังงานไฟ จากไฟบ้าน ลงไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 2,600 mAh ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องนั่นเอง
• Side Brush (แปรงปัดข้าง) : อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่เป็นทรงกลม แบบ Mister Robot Hybrid ที่จะต้องมีคือ เขาให้ แปรงข้าง 3 แฉก มาถึง 2 ฝั่ง (ซ้ายขวา) เป็นอีกสิ่งนึงที่จำเป็นมากๆ ที่จะต้องมี เพราะสาเหตุที่จะต้องมีแปรงข้างก็เพราะมันจะไม่สามารถซอกซอน ชอนไช เข้าไปตามขอบมุมของห้อง หรือ เฟอร์นิเจอร์ ได้เหมือนกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่เป็นทรงเหลี่ยม ที่จะเข้าซอกมุมได้ดีกว่า เนื่องจากรูปทรง รูปร่างสรีระ ของตัวมันเอง ดังนั้นมันจึงจำเป็นที่จะต้องมีแปรงข้าง เพื่อที่จะกวาดฝุ่น ปัดฝุ่นที่อยู่นอกรัศมีทำการของเครื่อง ให้เข้ามาด้านใน เพื่อให้แปรงกวาดหลัก (Main Brush) สามารถดูดเข้าไปเก็บใน กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dustbin) ได้ง่ายๆ นั่นเอง
• Battery Cover (ฝาครอบแบตเตอรี่) : ฝาครอบแบตเตอรี่ ที่ห่อหุ้ม ขนาดความจุ 2,600 mAh ด้านในเอาไว้ คุณสามารถถอดแบตเตอรี่ที่อยู่ด้านในเปลี่ยนเองได้ง่ายๆ เพียง ขันน๊อต 2 ตัวที่ปิดอยู่ออก ก็สามารถเปลี่ยนเองได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเอาไปให้ช่าง หรือ ศูนย์บริการทำให้
• Main Wheel (ล้อขับเคลื่อนหลัก) : ส่วนนี้คือ ล้อขับเคลื่อนหลัก ทรงพลัง ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น มี 2 ล้อ (ซ้าย และ ขวา) ทำมาจากยาง พร้อมดอกยาง เสริมการยึดเกาะที่ดีขึ้น มาพร้อมกับ สปริง (เปรียบเสมือนโช๊คอัพ) เพื่อใช้ในการให้ตัวของล้อ ให้มันสามารถวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับ หรือ สิ่งกีดขวาง ที่มีความสูงในระดับ 15 มิลลิเมตร (1.5 เซนติเมตร) ได้อย่างสบายๆ ล้อขับเคลื่อนหลัก ถือเป็นสิ่งที่จัดว่าขาดไม่ได้ ที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทุกตัวจะต้องมี เพราะมันจะเป็นตัวนำพาหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ให้วิ่งไปดูดฝุ่นตามพื้นที่ต่างๆ ในห้องของเรา รวมไปถึงการบังคับเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ก็เกิดจากล้อขับเคลื่อนหลักนี้ด้วยเช่นกัน และการทำงานของมันมาจากมอเตอร์ 2 ตัว ที่แยกรับผิดชอบแต่ละข้างไปเลย ดังนั้นจริงมีการทำงานที่อิสระต่อกัน (ไม่เหมือนรถยนต์ ที่จะต้องมีเพลาส่งกำลังไปยังล้อต่างๆ)
• Main Brush (แปรงกวาดหลัก) : แปรงกวาดหลัก ของเครื่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ก็จะถือเป็นพระเอกหลักของส่วนประกอบทั้งหมดภายในเครื่องเลย เพราะว่ามันจะเป็นตัวที่จะนำพาเศษฝุ่น เศษผม ต่างๆ ทั้งหมด ที่อยู่ในห้องของคุณ เข้ามาเก็บเอาไว้ใน กล่องใส่ขยะฝุ่นละอองโดย แปรงของ Mister Robot Hybrid ตัวนี้ ให้มาเป็นแปรงเดียว ทรงเกลียว แบบขน ขนาดยาวประมาณ 16 เซนติเมตร หรือ 160 mm. ซึ่งถือว่าสั้น
• Dustbin (กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง) / Mopping Device with Water Tank (ที่ติดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์พร้อมถังน้ำ) : พื้นที่ติดตั้ง กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง หรือ ที่ติดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์พร้อมถังน้ำ แล้วแต่คุณเลยว่าต้องการจะใช้งานประเภทไหน แบบไหน ถ้าต้องการดูฝุ่นอย่างเดียว ก็เอาอันแรกใส่ แต่ถ้าต้องการถูพื้นไปด้วย ก็เอาอันหลังใส่
อุปกรณ์ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง หรือบางยี่ห้อ เรียกว่า ถังเก็บฝุ่น นั้นทาง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid เขาให้มาในกล่อง อยู่ 2 ชุดด้วยกัน เพื่อวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
• กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง อย่างเดียว : กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ขนาดความจุ 0.45 ลิตร (450 mL) ส่วนนี้ก็เหมือนกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วๆ ไป ที่เอาไว้ใช้เก็บฝุ่นที่ถูกดูดเข้ามาโดยแปรงกวาดหลัก เข้ามาเก็บในนี้ และหลังจากนั้น อากาศก็จะถูกเป่ากลับออกไปจากเครื่องอีกครั้ง แต่จะมีแผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง HEPA ที่ช่วยกรองอากาศให้บริสุทธิ์ อีกครั้ง นอกจากนี้แล้ว ยังมีแผ่นกรองอากาศ อีก 3 ชั้น ซึ่งจะกรองอากาศ ที่ถูกดูดเข้ามาในตัวเครื่องพร้อมฝุ่นละออง และ ปล่อยกลับสู่บรรยากาศห้องอีกครั้ง จากรูปด้านล่าง ก็ได้แก่ (ซ้าย) แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง HEPA (กลาง) ฟองน้ำกรองฝุ่น และ (ขวา) ตาข่ายกรองฝุ่น
ถือเป็นอีก 1 อุปกรณ์ที่สำคัญของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ในปัจจุบันไปแล้ว สำหรับแท่นชาร์จ เพราะมันมีหน้าที่เอาไว้ในการ ชาร์จไฟ ถือเป็นฐานที่มั่นสำคัญ ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นด้วย เรียกได้ว่า เมื่อมันออกไปปฏิบัติงาน ทำภารกิจดูดฝุ่นเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ มันก็จะวิ่งกลับมาจอดชาร์จไฟ และจอดนิ่ง ที่นี่ เพื่อพร้อมในการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
โดย แท่นชาร์จ ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid นั้น หากเทียบรวมๆ กับรุ่นอื่นๆ มันก็มีขนาดเล็ก พอๆ กับตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเช่นกัน
อุปกรณ์สั่งการระยะไกล หรือที่เรียกว่า รีโมทคอนโทรล (Remote Control) ส่วนใหญ่จะเป็นชุดอุปกรณ์เสริม ที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคาแพงๆ มักจะมีติดมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ราคาต่ำกว่าหมื่นบาทแบบนี้ มักไม่ค่อยเห็นติดมาให้ด้วย แต่สำหรับ Mister Robot Hybrid มีติดมาให้ด้วย
ที่สำคัญ มันเป็นทุกอย่างของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ตัวนี้เลยทีเดียว เพราะการสั่งงาน เปลี่ยนโหมด ตั้งเวลาเครื่อง ตั้งเวลาทำความสะอาดต่างๆ ทุกอย่างต้องสั่งผ่าน รีโมทคอนโทรล นี้อย่างเดียวเท่านั้น และจะ ไม่สามารถสั่งงานผ่านปุ่มกด หน้าตัวเครื่องได้ (ตัวเครื่องสั่งได้แค่เปิดปิด และ ทำงานในโหมดอัตโนมัติ เท่านั้น) พูดง่ายๆ คือ “ห้ามทำรีโมทหาย !” นั่นเอง หากทำหายละก็ สั่งซื้อใหม่ทางหน้าเว็บไซต์ของผู้จัดจำหน่าย สถานเดียวครับ
โดยปุ่มต่างๆ มีไม่เยอะมาก แต่สามารถสั่งงานได้ครบครัน ไม่มีปัญหาเลยทีเดียว โดยส่วนประกอบต่างๆ ของมัน มีดังต่อไปนี้ มาดูกันตามหมายเลขเลย
• Direction Button : ปุ่มบังคับทิศทางของเครื่อง ให้ไปในทิศทางที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็น เดินหน้า ถอยหลัง เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ตามลูกศรเลย ที่มี ขึ้น ลง ซ้าย ขวา
• MAX Button : ทำความสะอาดในโหมดในพลัง และ กำลังสูงสุด
และแล้วก็มาถึงเวลาแห่งการรอคอย นั่นก็คือ การเปิดใช้งานจริงครั้งแรก (First Use) ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid แต่ก่อนที่จะเริ่มใช้งานจริงนั้น ก็จะต้องมีการตระเตรียมความพร้อมของ เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น สักเล็กน้อย เพื่อให้การใช้งานนั้นเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
โดยขั้นตอนต่อไป คือ การติดตั้งแท่นชาร์จ (Charge Base) กันก่อน โดยคุณจะต้องหาพื้นที่วางแท่นชาร์จ ไว้บนที่โล่ง และ ไม่มีอะไรกีดขวาง โดยหันหลังให้ชิดกับกำแพงบ้าน หรือ เฟอร์นิเจอร์ โดยมีรัศมี ด้านข้าง (ฝั่งซ้าย กับ ฝั่งขวา) ต้องมีสิ่งกีดขวาง วางห่างไม่ต่ำกว่า 1 เมตร และด้านหน้า 2 เมตร เพื่อที่จะให้ตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid สามารถตั้งลำ เข้าออกได้อย่างสะดวก และไม่ติดขัดกับสิ่งกีดขวางใดๆ
ผมเห็นหลายคนตกผู้ใช้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น หลายคนตกม้าตาย กับปัญหาที่ว่า เมื่อทำงานเสร็จแล้ว ตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ไม่สามารถกลับเข้าแท่นชาร์จได้อย่างถูกต้อง ซึ่งปัญหาส่วนนึง มาจาก พื้นที่รอบข้างของแท่นชาร์จแคบเกินไป มีของวางรกเกะกะ ทำให้ ไม่สามารถตั้งลำ และ เข้าจอดได้อย่างถูกต้อง ดังนั้น พื้นที่รอบข้างของแท่นชาร์จ จึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจเช่นกัน
และตามธรรมเนียมปฏิบัติของผม กับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทุกเครื่องนั้น จะต้องทำการชาร์จไฟข้ามคืนกันก่อน ประมาณสัก 6-8 ชั่วโมง เป็นอย่างต่ำ เพราะเราไม่รู้ว่าจากโรงงานมีแบตเตอรี่ มาให้มากมายเท่าไหร่ เพื่อความแน่นอน และ ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในครั้งแรกนั้น เลยต้องชาร์จให้ได้เท่านี้ก่อน
ซึ่งก่อนที่จะชาร์จไฟลงเครื่อง ก็ได้ค้นพบ อีกหนึ่งข้อดีของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ตัวนี้ นั่นก็คือ คุณสามารถที่จะชาร์จไฟเข้าตัวเครื่องได้ 2 ทาง ได้แก่
ในส่วนของ แบบหลัง (แบบที่ 2) นี้คุณสามารถที่จะ ต่อสายต่อเข้าที่เครื่องเลย เรียกได้ว่า ถ้าเกิดหากแท่นชาร์จเสียมีปัญหา ก็สามารถต่อสายตรงผ่าน อะแดปเตอร์แปลงไฟ ได้เลยทันที โดยไม่ต้องพึ่งแท่นชาร์จ แต่ถ้าหาก อะแดปเตอร์ เสียก็คงจบข่าว
อันดับต่อไป ที่ควรจะต้องทำก่อนเริ่มต้นใช้งาน คือ การตั้งเวลา ให้กับเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เพื่อให้มันสามารถตั้งเวลาทำความสะอาด (Schedule Setting) ได้ในลำดับต่อไป
ซึ่งการตั้งเวลานี้ จะเป็นการตั้งเวลาในส่วนของ ชั่วโมง (Hour – HH) และ นาที (Minute – MM) เท่านั้น (ไม่ต้องตั้งวันที่) โดยสามารถตั้งผ่าน รีโมทคอนโทรล ได้เลย (ตั้งผ่านหน้าตัวเครื่องไม่ได้) โดยการกดที่ “ปุ่ม CLOCK” หลังจากนั้น เครื่องจะส่งสัญญาณ “ตี๊ด” ครั้งนึง และคุณสามารถใช้ “ปุ่มบังคับทิศทางของเครื่อง” ในการปรับเลื่อนเวลาขึ้นลง เพื่อเลือก รายละเอียดชั่วโมง กดคอนเฟิร์มด้วยการกด “ปุ่ม CLEAN” ตรงกลาง
หลังจากนั้น ก็เลื่อนลูกศรไปทางซ้าย ตามด้วยลูกศรขึ้นลง เพื่อเลือกรายละเอียดของนาที ซึ่งตรงนาที ตรงนี้ก็ทำเช่นกันกับตอนตั้งค่าชั่วโมง กดปุ่มลูกศรเลื่อนขึ้นลง และ กด “ปุ่ม CLEAN” เมื่อเสร็จสิ้นได้เลยทันที
ส่วนนี้ถือเป็นตัวเลือก ที่คุณจะสามารถเลือกก็ได้ หรือ ไม่เลือกก็ได้ นั่นคือการตั้งเวลาทำความสะอาดรายวัน (Schedule Setting) ซึ่งความสามารถนี้ ส่วนมากความสามารถนี้ จะอยู่ใน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุ่นสูงๆ รุ่นท็อปๆ เท่านั้น แต่ก็ได้ถูกบรรจุ อยู่ในเครื่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตัวนี้ด้วยเช่นกัน
โดยวิธีการตั้งเวลาทำความสะอาดรายวันนั้น วิธีทำ จะทำเหมือนกับขั้นตอนการ ตั้งเวลาเครื่อง ที่ได้กล่าวมาด้านบน (ข้อ 3) แต่ต่างกันตรงที่ คุณต้องกดที่ “ปุ่ม PLAN” ที่อยู่ข้างๆ แทน แต่วิธีการเหมือนกันทั้งหมด เริ่มจากการตั้งค่าของชั่วโมง (Hour Setting) และตามด้วย ตั้งค่านาที (Minute Setting)
แต่มีข้อแตกต่างสักเล็กน้อยคือ การตั้งค่านาที นั้นมันจะสามารถเลือกขยับได้ทีละ 15 นาที เท่านั้น เช่น ตั้งให้ทำความสะอาดเวลา 10:00 น. 10:15 น. 10:30 น. และ 10:45 น. เท่านั้น จะลงเศษย่อยลึกกว่านี้ไม่ได้แล้ว เช่นให้ออกมาทำความสะอาดตอน 10:19 น. แบบนี้จะไม่ได้ !
และเมื่อเลือกค่าวันเวลาเสร็จ ก็กด “ปุ่ม CLEAN” อีกครั้งเพื่อยืนยันการตั้งค่าเวลา (ทั้งชั่วโมงและนาที) เป็นอันเสร็จพิธี
อย่าลืมจุดสุดท้าย ที่คุณมีตัวเลือก ให้เลือกแค่ 1 อย่างเท่านั้น สำหรับ เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ตัวนี้ นั่นก็คือ คุณต้องเลือกว่าจะดูดฝุ่น หรือ ถูพื้น เพราะจะต้องใช้อุปกรณ์ติดท้ายเครื่องที่แตกต่างกัน ออกไป
โดยตัวนี้ติดมาให้กับตัวเครื่องคือ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dustbin) ซึ่งชุดนี้คือใช้ในกรณีที่คุณต้องการดูดฝุ่น แต่ถ้าต้องการถูพื้นด้วย ต้องไปหยิบชุด ที่ติดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์พร้อมถังน้ำ (Mopping Device with Water Tank) มาติดตั้งแทน ก็แล้วแต่การใช้งานคุณ เอาที่คุณสบายใจเลย
มาถึงช่วงที่บอกเล่าประสบการณ์หลังการใช้งาน ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ตัวนี้มา ได้ประมาณ 3 สัปดาห์ ต่อเนื่องกัน โดยตั้งให้ดูดฝุ่นทุกๆ 10 โมงเช้าของทุกวัน
เป็นอีกอย่าง ที่เชื่อว่าหลายคนจับตามอง สำหรับความสามารถด้านการถูพื้นด้วยน้ำ นี่ถือเป็น “สิ่งแปลกใหม่” ที่หาได้ยาก กับการที่พ่วงฟังก์ชั่นการถูพื้นแบบเปียก เข้ามาบน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ลำพังแค่ ถูพื้นแบบแห้งธรรมดาด้วย ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ อย่างเดียวก็หายากแล้ว ยิ่งถ้าเป็น ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ แบบเปียก อีกด้วยละก็ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่เลย แต่ตัวนี้พกมาให้จ้า
เริ่มด้วยคุณจะต้องไปเติมน้ำ ลงไปใน “ที่ติดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์พร้อมถังน้ำ” หรือ เรียกสั้นๆ ว่า “ถังน้ำ” ก็ได้ครับ ให้ได้ปริมาตร 300 cc เสียก่อน แล้วนำไปติดตั้งกับตัวเครื่อง แล้วก็เปิดให้เครื่องทำงานไปตามปกติ
โดยน้ำที่อยู่ในถัง จะถูกปล่อยหยดซึม ออกมาผ่าน ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ ช้าๆ เพื่อให้ผ้านั้นชุ่มน้ำได้ที่ เพื่อถูพื้นในบ้านได้อย่างสะอาดหมดจดจริงๆ ทั้งดูดฝุ่นหน้าเครื่อง ปิดท้ายด้วยการถูด้วยผ้าเปียกหมาดท้ายเครื่อง
มาดูเรื่องของขนาดของตัวเครื่องกันดูบ้าง ด้านบนอาจจะเห็นผมเขียนว่าขนาดเล็ก คล่องแคล่ว โดย ความรู้สึกแรกที่ผมเห็นคือ เมื่อนำเอา อุปกรณ์ทั้งหมด ออกมาวางเรียงกันบนพื้น ก็จะพบว่า ตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวอื่นๆ ที่ผมเคยรีวิวมา (ไม่นับ หุ่นยนต์ถูพื้น และ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคาถูก นะครับ)
จากสเปคที่ระบุ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid มีขนาดมิติอยู่ที่ 310 x 310 x 76 มิลลิเมตร นั่นหมายความว่า ตัวเครื่องมีความสูงเพียง 7.6 เซนติเมตร เท่านั้น (ถือว่าเตี้ยพอสมควร)
แน่นอนว่า ข้อดี ของมันคือ เวลามันวิ่งทำความสะอาด ในห้องของเรา มันก็จะสามารถมุด ทะลุทะลวง เข้าตามซอก หรือแม้แต่ใต้เฟอร์นิเจอร์ โซฟา ใต้ขาเก้าอี้สำนักงาน ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีขนาดมิติใหญ่ๆ นั้นจะไม่สามารถทำได้
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัว Mister Robot Hybrid ตัวนี้ มีเซ็นเซอร์อินฟราเรด (Infrared Sensor) ป้องกันการตกจากที่สูงอยู่รอบๆ ตัว ดังนั้น ไม่มีปัญหาเรื่องของ การพลัดตกจากบันได จากที่สูง แม้จะไม่มีกำแพง หรือที่กั้น แต่อย่างใด
และด้วยความที่เซ็นเซอร์ของมันเป็น อินฟราเรด ดังนั้น ต่อให้คุณจะปิดไฟห้องมืด หรือเปิดไฟห้องสว่าง ก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงอยู่ดี
ตามสเปคของตัวเครื่อง เคลมว่าสามารถวิ่งกลับได้ ไม่มีปัญหา และ พอผมลองมาใช้งานจริงๆ ก็พบว่าสามารถวิ่งกลับแท่นชาร์จได้โดย “ไม่มีปัญหา” เช่นกัน โดย การที่มันจะกลับแท่นชาร์จ ได้นั้น มีอยู่ 2 เงื่อนไขคือ
และเมื่อถึงเวลาที่จะต้องกลับบ้าน (แท่นชาร์จ) ไม่ว่าจะอยู่ที่แห่งหนใดในห้อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้จะทำการปิดระบบการดูดฝุ่น เหลือไว้แต่ระบบขับเคลื่อน เสียงเครื่องจะเงียบลง เหลือไว้แต่เสียงล้อหมุนๆ โดยการวิ่งเข้าหาแท่นชาร์จ ตัวเครื่องจะวิ่งกลับหาแท่นชาร์จได้
แต่ในเวลาที่มันวิ่งกลับ มันอาจจะไม่ได้วิ่งตรงดิ่งหาแท่นชาร์จโดยตรง อาจจะมีวิ่งไปทางโน้นที ทางนี้ที เพื่อหาแท่นชาร์จ แต่สุดท้าย เมื่อมาถึงตำแหน่งใกล้บริเวณแท่นชาร์จจริงๆ มันก็สามารถหันหัว ตั้งลำเข้าจอดได้เรียบร้อยเลยทีเดียว
นอกจากนี้แล้ว ถ้าเข้าไปแล้วไม่โดนแท่นชาร์จ ก็มีการถอยหลังกลับมาตั้งลำใหม่ เพื่อกลับเข้าไปจอดอีกครั้งดีๆ ได้อีกด้วยเช่นกัน
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid ตัวนี้ มีความสามารถในการวิ่งเข้าห้องเล็ก ห้องน้อย ที่อยู่ในบ้าน คอนโดมิเนียมได้สบายๆ ไม่มีปัญหาใดๆ หรือแม้แต่ ้หองน้ำ ก็สามารถปืนขอบขั้นประตู เข้าไป และ กลับออกมาได้ อย่างไม่มีปัญหาใดๆ เช่นกัน
ผมใช้ดูดฝุ่นในห้องขนาดประมาณ 60 ตารางเมตร ก็สามารถวิ่งเข้าออก ในแต่ละห้องได้อย่างไร้ปัญหา เวลาการดูดประมาณ 90 นาที แต่ครบทั่วทุกบริเวณ
ระดับการทำงาน ของ เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่ค่อนข้างเงียบ มีระดับความดังของเสียงขณะทำงานอยู่ที่ประมาณ 64 dB. (เดซิเบล) แต่วัดขณะที่อยู่ห่างจากตัวเครื่องขณะทำงานประมาณ 1 เมตร จากภาพด้านล่าง ก็อยู่ในระดับของ การสนทนาทั่วๆ ไป (Usual Conversation) 60 dB และ เครื่องดูดฝุ่น (Vacuum Cleaner) 70 dB.
ซึ่งจุดนี้ผมขอลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง โดยขณะที่กำลังทำงาน ผมเอามือถือไอโฟน 6s ที่ติดตั้ง แอพ LINE Tools เลือกเมนู “Sound Level Meter” ซึ่งเป็นเมนูที่เอาไว้ใช้ในการวัดระดับเสียง และใช้กับการ รีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทุกตัว ที่ผมทำมาเป็นสิบเครื่องแล้ว เพื่อที่จะให้ได้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ดูจากค่าด้านบนได้เลย
จากการที่ทดสอบมา หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid นี้มีความสามารถในการวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับ ธรณีประตู (Doorsill) หรือแม้แต่ พรมเช็ดเท้า ที่มีขนขนาดใหญ่ (ตามรูปภาพที่เห็นด้านล่าง) ค่อนข้างดีมาก แม้อาจจะทำให้พรมขยุก ยับไปบ้าง เรียกได้ว่า ถ้าเทียบกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นในระดับราคาเท่าๆ กัน (ราคาประมาณเฉียดๆ หมื่นบาท) ตัวนี้ใช้ได้เลยทีเดียวครับ
สาเหตุเพราะ ตัวมอเตอร์ขับเคลื่อนเครื่องมันเองมีพลังมากพอ ที่จะปล่อยพลังงาน ปล่อยแรง ออกมาผ่านทางล้อขับเคลื่อนทั้ง 2 ของมัน ให้วิ่งผ่านสิ่งกีดขวาง หรือ พื้นที่ต่างระดับได้ง่ายๆ สบายๆ และเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดี
จากที่ทดลองดูดมา 3 วัน ฝุ่นที่ได้รับก็เป็นอย่างที่เห็นเลย มีทั้งเศษผม เศษฝุ่น ชิ้นเล็กชิ้นน้อย ที่บางทีมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่พอดูดมาเยอะๆ เข้า ก็จะเป็นอย่างที่เห็น เนื่องจากคอนโดมิเนียมผมอยู่ริมถนนใหญ่ มันมักจะมีเศษฝุ่นเล็กๆ เข้าใจว่าน่าจะเป็นจากมลพิษ พวกเขม่า ไอเสีย จากเครื่องยนต์ รถยนต์ จักรยานยนต์ นี่แหละ ที่ลอยขึ้นมา
โดยมีจุดน่าสังเกตดังนี้คือ ทั้ง 2 ชุด ได้แก่ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง และ ที่ติดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์พร้อมถังน้ำ (Mopping Device with Water Tank) ต่างก็สามารถเก็บฝุ่นได้ทั้งคู่ แต่ตัว กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง จะมีความจุที่มากกว่า ดังนั้นจึงเก็บเศษฝุ่นได้มากกว่า และสามารถถอดมาทำล้างทำความสะอาดฝุ่นได้มากกว่า เพราะเปิดฝากล่องได้เลย ตามรูปภาพประกอบด้านล่าง
แต่ในขณะที่ อุปกรณ์อย่าง ที่ติดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์พร้อมถังน้ำ นั้น มันสามารถเป็นได้ทั้ง ถังน้ำ (Water Tank) และ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ได้ในตัวเดียวกัน (2-in-1) ดังนั้น การใช้สอยจึงต้องแชร์ๆ กันไป แบ่งส่วนนึงไปเก็บน้ำ แบ่งส่วนนึงไปเก็บฝุ่น
จากภาพที่เห็นด้านบนคือ ด้านล่าง (ที่มีรอยหยดน้ำนิดๆ) และ ด้านบน (ที่มีลายน้ำเขียนว่า อยู่ ตรงนั้นคือพื้นที่เก็บน้ำของถังน้ำ แต่ช่องตรงกลางคือ ที่เก็บฝุ่น ซึ่งมันก็มีขนาดเล็กอยู่
การทำความสะอาดก็เป็นไปได้ลำบากนิดนึง ต้องใช้นิ้วเข้าไปเขี่ยๆ หยิบๆ ปัดๆ ออกมา หรืออีกวิธีคือ เทน้ำลงไปในช่อง แล้วเขย่าๆ เพื่อให้ฝุ่น เศษผมออกมาพร้อมน้ำตอนเทออก เพราะไม่สามารถเปิดฝากล่องออกมาถังฝาได้เหมือนกับ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (ในรูปแรก) นั่นเอง
ทีนี้ก็อยู่ที่ผู้ใช้งานละครับว่า จะเลือกใช้งานแบบไหน ถึงจะเหมาะสม ถ้าจะถูพื้นไปด้วย ดูดฝุ่นด้วย ก็ต้องใช้ ที่ติดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์พร้อมถังน้ำ แต่ก็ต้องทำความสะอาดบ่อยหน่อย เพราะพื้นที่เก็บฝุ่นมันเล็ก แต่ถ้าจะดูดฝุ่นอย่างเดียว ก็ใช้ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ไปเลยดีกว่า สบายใจกว่า
หุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านของ Mister Robot จะมีการรับประกันในส่วนของอุปกรณ์ภายในตัวเครื่องเป็นระยะเวลา 1 ปี ส่วนของแบตเตอรี่จะรับประกัน 6 เดือน หลังจากหมดช่วงระยะประกันแล้วสามารถสั่งซื้ออุปกรณ์อะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ ได้ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของผู้จัดจำหน่ายได้เลย
โดยลูกค้าที่สั่งซื้อไปใช้งานแล้ว ถ้าหากเครื่องมีปัญหา ก็สามารถติดต่อแผนกบริการหลังการขาย (After Service Support Team) ได้โดยตรงเลยที่
คุณสามารถสั่งซื้อ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot Hybrid Mapping นี้ได้ผ่านทางหลายช่องทาง ถ้าไปซื้อหน้าร้านก็ เช่นที่ ห้างโฮมโปร (HomePro) หรือ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล (Central Department Store) ที่ร่วมรายการ หรือจะโทรศัพท์ไปติดต่อสอบถามทาง บริษัท เอ็ม เอ็ม โกลบอลเทรด จำกัด ผู้จัดจำหน่าย ก่อนได้ที่เบอร์โทรศัพท์ และรายละเอียดติดต่อ ด้านล่างนี้ได้เลย
และก็มาถึงช่วงสุดท้ายของบทความรีวิวชุดนี้ หลังผ่านการใช้งานมาสักระยะ ผมก็ขอมาสรุปถึงข้อดี ข้อเสีย ของมันกันดู ว่าจากที่พบประสบมานั้น มีอะไรตรงไหนที่ติดใจ บ้าง มาดูกันเลย
• เป็นอุปกรณ์ที่สามารถดูดฝุ่น และ ถูพื้นด้วยน้ำได้ ในตัวเดียว สะอาดสุดๆ คุณสมบัติครบเครื่อง 2-in-1
• ตัวเครื่องมีขนาดที่เล็ก ทำให้วิ่งมุดใต้โซฟาบางตัว เฟอร์นิเจอร์บางชิ้น ใต้ขาล้อของ เก้าอี้สำนักงาน บางตัว ได้เป็นอย่างดี ขณะที่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวอื่น ที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ ไม่สามารถทำได้
• แปรงข้าง 3 แฉก มีขนาดยาวมาก ถึงแฉกละ 7 เซนติเมตร ทะลุทะลวงขอบข้างกำแพง มุมห้องได้เป็นอย่างดี แถมหมุนเร็วอีกต่างหาก
• ล้อเลื่อนหน้าเครื่อง (Caster Wheel) มีขนาดใหญ่กว่าตัวอื่นๆ จึงสามารถวิ่งผ่าน พื้นที่ต่างระดับ ธรณีประตู ได้ดีกว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่มีล้อเลื่อน ด้านหน้าขนาดเล็ก เพราะจะ คล่องตัว และไม่ติดขัด
• ช่องเสียบไฟตรงกับอะแดปเตอร์ ติดตั้งที่ตัวเครื่อง ให้คุณสามารถชาร์จไฟโดยตรงเข้าเครื่องได้ เป็นวิธีสำรอง กรณีที่ ลืมแท่นชาร์จมา หรือ แท่นชาร์จเสีย
• อะแดปเตอร์ ชาร์จไฟ สามารถรองรับประเทศที่ใช้ไฟตั้งแต่ 100V ถึง 240V หมายความว่าสามารถใช้กับประเทศที่ใช้ ระบบไฟทั้งแบบ 220V อาทิ ประเทศไทย และ 110V อาทิ ประเทศสหรัฐอเมริกา สรุปคือ คุณสามารถแบกไปใช้ได้ทั่วโลก (ถ้าสามารถแบกไปใช้ได้นะ)
• ราคาถูกมาก กับความสามารถของมัน ที่ต่ำกว่าหมื่นบาท คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
• การทำความสะอาด ดูแลรักษา สามารถทำได้ง่ายมากๆ อาทิแปรงกวาด กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ถังน้ำ นอกจากนี้ อุปกรณ์อื่นๆ หลายชิ้น ก็สามารถถอดประกอบ ถอดเปลี่ยน ได้เอง อาทิ แบตเตอรี่ แปรงกวาดข้าง โดยไม่ต้องพึ่งช่าง หรือ ศูนย์บริการ
• แปรงกวาดหลัก (Main Brush) มีขนาดสั้น แต่แลกกับ แปรงข้าง (Side Brush) ที่มีขนาดยาวมาก หักลบกลบหนี้กันพอดี
• กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง หรือ ถังเก็บฝุ่น มีขนาดเล็ก แต่แลกมากับความสามารถของถังเก็บน้ำ เผื่อเอาไว้ใช้ถูบ้าน และผมเป็นคนทำความสะอาดเครื่องเกือบทุกวันอยู่แล้ว จึงไม่มองว่ามันเป็นปัญหาสักเท่าไหร่
• การสั่งงานเกือบ 90% ทั้งหมด ของเครื่อง ต้องสั่งงานผ่านรีโมทคอนโทรล ซึ่งสะดวกจริง แต่ถ้าเกิดมันหาย เสีย หรือ ถ่านหมด ขึ้นมา คงลำบากพอสมควร
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ ข้อดี ข้อเสีย ของมัน โดยตัวนี้ ข้อเสียเกือบทุกข้อ ของมันที่พบ ผมถือว่ารับได้ทั้งหมดนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วเมื่อเทียบกับราคาของมัน ที่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท
Leave A Comment