10 เครื่องดูดฝุ่น 2021 ผู้ช่วยทำความสะอาดบ้าน และเช็กลิสต์ก่อนซื้อ

10 เครื่องดูดฝุ่น 2021 ผู้ช่วยทำความสะอาดบ้าน และเช็กลิสต์ก่อนซื้อ

ก่อนหน้านี้เราอาจจะใช้แค่ไม้กวาดกำจัดเศษฝุ่นและขยะ ซึ่งสามารถทำให้บ้านสะอาดได้แค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะหากสังเกตดูจะเห็นว่าที่พื้นบ้าน จะยังมีผงละอองเล็ก ๆ หลงเหลืออยู่ ซึ่งอาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าจนกว่าพวกมันจะจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ และเพิ่มภาระการทำงานบ้านให้หนักขึ้น นอกจากนี้บางครั้งในขณะที่กำลังกวาดบ้านอยู่อาจมีลมพัดมาทำให้กองขยะปลิวว่อนไปเต็มบ้าน ทำให้ต้องกลับไปกวาดซ้ำอีกหนึ่งรอบซะอย่างนั้น ทำเอาเสียเวลาไม่ใช่เล่น ดังนั้นหลายบ้านจึงหันมาสนใจใช้เครื่องดูดฝุ่นกันมากขึ้น เพราะนอกจากจะไม่ต้องเผชิญกับปัญหาดังที่กล่าวมาแล้ว ยังสะดวกและรวดเร็วกว่าการใช้ไม้กวาด กระปุกดอทคอมจึงมีวิธีเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นและ 10 รีวิวเครื่องดูดฝุ่นไว้เป็นทางเลือกก่อนซื้อมาฝากกันค่ะ

ก่อนที่จะพิจารณาส่วนประกอบอื่น ๆ ควรคำนึงถึงความกว้างของพื้นที่ภายในบ้านเสียก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณขนาดความเล็กใหญ่ รูปแบบ และกำลังไฟฟ้าของเครื่องดูดฝุ่นที่จะนำมาใช้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงปัจจัยและองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย เช่น ความถี่ในการใช้ เฟอร์นิเจอร์ และมุมอับต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านที่มีเด็ก และสัตว์เลี้ยง เพราะอาจจะต้องทำความสะอาดมากขึ้นเป็นพิเศษ

เครื่องดูดฝุ่นถูกแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบด้วยกันคือ เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสาย มีข้อดีคือพลังดูดสูง ทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็ว สามารถทำความสะอาดพื้นผิวได้หลายแบบ และใช้ต่อเนื่องได้ตลอดไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี แต่มีข้อจำกัดคือ มีน้ำหนัก และมีความยาวสายไฟจำกัด อาจทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดได้ทุกที่่ สำหรับเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย น้ำหนักเบา ทำความสะอาดได้คล่องตัว สามารถเข้าถึงซอกมุมต่าง ๆ ของบ้านได้มากกว่าแบบแรก แต่มีราคาสูงกว่า และมีเวลาในการใช้งานจำกัด และหุ่นยนต์ทำความสะอาด ช่วยทำความสะอาดบ้านให้อัตโนมัติ เซฟแรง ประหยัดเวลา สามารถสั่งการได้ผ่านแอปพลิเคชั่น แต่ราคาค่อนข้างสูงกว่าเครื่องดูดฝุ่น 2 แบบแรก

ประเภทของเครื่องดูดฝุ่นแบ่งคร่าว ๆ ออกได้ดังนี้

- การดูดฝุ่นเข้าเครื่องโดยตรง เครื่องดูดฝุ่นประเภทนี้จะเป็นแบบไม่กระจายฝุ่น แต่ดูดเข้าไปภายในตัวเครื่องโดยตรง ซึ่งบางรุ่นหรือบางแบรนด์มีการติดขนแปรงไว้ที่บริเวณปลายท่อ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดให้มากขึ้น ซึ่งเหมาะกับพื้นที่โล่งกว้าง และวัสดุเรียบ ๆ เช่น พื้นกระเบื้อง พื้นไม้ และบริเวณที่มีฝุ่นเกาะไม่มากนัก

- การดูดฝุ่นแบบสั่นสะเทือน ในระบบนี้ดูดจะมีแปรงที่ปลายแกนหมุนและบ่านูน หรือติดตั้งระบบสั่นสะเทือนเอาไว้ในตัวเครื่อง เพื่อทำให้ฝุ่นกระจายตัวก่อนแล้วค่อยดูดเข้าเครื่อง ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นประเภทนี้เหมาะสำหรับพื้นพรมที่มีความหนามาก ๆ หรือบริเวณที่มีฝุ่นเกาะแน่น

- การดูดฝุ่นแบบแปรงหมุน ถึงแม้จะมีแปรงหมุนเหมือนกันแต่เครื่องดูดฝุ่นประเภทนี้จะไม่มีบ่านูนเหมือนแบบสั่นสะเทือน และขนแปรงจะอยู่รอบ ๆ แกนหมุนเพื่อให้ฝุ่นกระจายออกก่อนที่จะทำการดูดเข้าเครื่อง เป็นระบบที่เหมาะกับพื้นพรมที่มีความหนาไม่มากนัก

การกรองฝุ่นที่ระบุบนตัวเครื่องควรจะมีระบบกรองเศษฝุ่นขนาดเล็กตั้งแต่ 10 ไมครอนไปจนกระทั่งขนาด 0.6 ไมครอน (1 ไมครอน = 0.001 มม.) ได้ถึงจะถือว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพดี โดยเฉพาะบ้านที่มีสมาชิกเป็นภูมิแพ้ ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีฟิลเตอร์กรองอากาศที่ระบุคำว่า HEPA ซึ่งเป็นระบบใหม่ของเครื่องดูดฝุ่น เนื่องจากในระบบนี้จะช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ ที่เกิดจากฝุ่น และสิ่งสกปรกที่ปะปนมากับอากาศ แต่ถ้าหากเน้นความสะดวกสบายในการถอดทำความสะอาดอาจเลือกเครื่องดูดฝุ่นระบบ Cyclone เพราะระบบนี้จะเก็บฝุ่นไว้ในถังสามารถถอดล้างได้เลย ซึ่งสิ้นเปลืองน้อยกว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบที่ใช้ถุงเก็บฝุ่น

สำหรับเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้ถุงเก็บฝุ่นสามารถพิจารณาได้ตามการใช้งานคือ ถุงกรองแบบกระดาษสามารถกรองฝุ่นได้ถึง 0.1 ไมครอน โดยถุงประเภทนี้เป็นแบบใช้งานครั้งเดียว และจะต้องเปลี่ยนใหม่ทุกครั้งหากมีการใช้งาน ส่วนคนที่ต้องการถุงแบบถอดล้างได้อาจจะเลือกถุงกรองแบบใยสังเคราะห์ หรือถุงกรองแบบผ้า เพราะทั้งสองแบบนี้สามารถถอดล้างได้เช่นกัน แต่มีความแตกต่างตรงที่ถุงกรองใยสังเคราะห์สามารถกรองฝุ่นได้ถึง 0.3 ไมครอน ไม่ขึ้นราและไม่เกิดกลิ่นอับ ในขณะที่ถุงกรองฝุ่นแบบผ้า กรองฝุ่นขนาดเล็กสุดได้ 0.5 ไมครอน แต่ถ้าหากทำความสะอาดไม่ดี หรือเกิดความชื้นอาจจะเกิดกลิ่นอับและเชื้อราได้

เนื่องจากเครื่องดูดฝุ่นแต่ละรุ่นมีขนาดความยาวของท่อดูดฝุ่นแตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรพิจารณาด้วยว่าในส่วนของท่อดูดฝุ่นมีความยาวเพียงพอหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาดบริเวณที่เข้าถึงยากหรือบนพื้นที่ที่มีความสูงมาก ๆ เช่น บนฝาเพดาน ใต้เฟอร์นิเจอร์ หรือตามซอกมุมต่าง ๆ และในกรณีที่เป็นแบบท่อตัวหนอนควรจะมีความหนามากพอ เมื่อจับหรือบีบแล้วไม่บุบหรือยุบลงไป อีกทั้งยังควรพิจารณาลักษณะของหัวแปรงด้วยว่ามีแบบที่ต้องการหรือไม่ นอกจากนี้หากเป็นไปควรจะเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่สามารถเก็บหัวแปรงไว้กับตัวเครื่องได้ด้วย เพื่อป้องกันการสูญหาย และความสะดวกในการหยิบใช้งานค่ะ

ไม่ควรตัดสินใจซื้อเพราะลักษณะของรูปแบบ ดีไซน์ และสีสันภายนอกเท่านั้น แต่ควรทดลองเพื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานเสียก่อน รวมไปถึงความเหมาะสมของอุปกรณ์ ได้แก่ ความถนัดในการจับ น้ำหนักของตัวเครื่อง และระดับความดังของเครื่องดูดฝุ่น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมาในภายหลัง เช่น หากจับไม่ถนัด หรือเครื่องดูดฝุ่นมีน้ำหนักมากเกินไป จะทำให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้ได้

กำลังไฟฟ้าของเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานในบ้านเรือนทั่วไปอยู่ที่ 750-1,200 วัตต์ โดยพิจารณาจากวัสดุที่ใช้ตกแต่งและขนาดความกว้างของพื้นที่ภายในบ้าน ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นที่มีกำลังไฟฟ้ามาก จะเหมาะกับพื้นที่ปูด้วยพรม หรือบริเวณที่มีฝุ่นเกาะหนา ส่วนบ้านที่ปูพื้นด้วยไม้ ทำความสะอาดง่าย และไม่ค่อยมีฝุ่นมากนัก เลือกเครื่องดูดฝุ่นกำลังไฟฟ้าต่ำก็เพียงพอแล้ว เพราะอย่าลืมว่ายิ่งมีกำลังไฟฟ้ามากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเปลืองไฟมากเท่านั้น และสำหรับบ้านที่มีการใช้งานหลากหลายแบบควรจะเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่สามารถปรับระดับความแรงของกำลังดูดได้จะดีที่สุด

ระบบการทำงานของเครื่องดูดฝุ่นควรจะมีระบบจัดการการหมุนเวียนของอากาศได้ดี กล่าวคือ อากาศที่ไหลผ่านเข้าไปในตัวเครื่องควรจะผ่านระบบกรองที่ติดตั้งอยู่ภายในก่อนทุกครั้ง และในส่วนของอากาศที่ยังไม่ผ่านระบบกรองฝุ่นไม่ควรจะหลุดลอดออกมาจากตัวเครื่องด้วย

เนื่องจากคู่มือการใช้เครื่องดูดฝุ่นบางรุ่นไม่มีในส่วนของภาษาไทย หรือบางครั้งมีเนื้อหาไม่ครบตามที่ต้นฉบับได้เขียนไว้ ดังนั้นหลังจากที่เลือกรุ่นและแบบของเครื่องดูดฝุ่นได้แล้ว ควรให้ผู้ขายอธิบายการใช้เบื้องต้นด้วย อย่างเช่น ตำแหน่งของปุ่มต่าง ๆ วิธีปรับเปลี่ยนท่อดูดฝุ่น ขั้นตอนการเปลี่ยนแผ่นกรอง การทำความสะอาดเครื่อง และข้อห้ามต่าง ๆ รวมไปถึงการประกันตัวเครื่องด้วย

เครื่องดูดฝุ่นราคาแพงไม่ได้หมายความว่ามีคุณภาพดีและเหมาะสมกับการทำความสะอาดภายในบ้านเสมอไป ดังนั้นควรคำนึงถึงการให้บริการหลังการขายด้วยว่าได้คุณภาพและเหมาะสมกับราคาที่จ่ายไปหรือไม่ เพราะบางครั้งถึงแม้เครื่องดูดฝุ่นจะมีราคาแพง แต่การบริการอาจจะแย่กว่าที่คิด ฉะนั้นควรเช็กข้อมูลในส่วนนี้ด้วย เพื่อให้คุ้มค่ากับราคาของเครื่องดูดฝุ่นมากที่สุดค่ะ

เครื่องดูดฝุ่นด้ามจับ ราคาย่อมเยากำลังไฟ 700 วัตต์ พลังดูด 130 วัตต์ น้ำหนัก 3.1 กิโลกรัม ความจุกล่องเก็บฝุ่น 1.2 ลิตร ตัวกล่องทำจากพลาสติกใส มองเห็นปริมาณฝุ่นด้านในได้ เปิด-ปิดด้วยระบบซิปล็อก ถอดเทฝุ่นและทำความสะอาดง่าย มีหัวแปรงให้ 3 แบบ แถมปรับเป็นแบบมือถือได้ด้วย ราคาประมาณ 1,290เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสายไฟ ความยาว 6 เมตร กำลังไฟ 1800 วัตต์ พลังดูด 350 วัตต์ มีปุ่มปรับความแรงพลังดูดและปุ่มเก็บสายไฟอัตโนมัติ น้ำหนักเบา 3.65 กิโลกรัม ภายในตัวเครื่องกล่องเก็บฝุ่นขนาด 3 ลิตร มีฟังก์ชั่น Easy Dust Blowing สำหรับกำจัดฝุ่นในมุมที่เข้าถึงยาก นอกจากนี้ยังมี 2-Way parking สำหรับสวมท่อที่ตัวเครื่อง ช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บอีกด้วย ราคาประมาณ 1,990 บาทเครื่องดูดฝุ่นมีสายแบบด้านจับ พร้อมสายไฟความยาว 6 เมตร กำลังไฟ 800 วัตต์ น้ำหนัก 3.9 กิโลกรัม ตัวเครื่องออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์เพื่อเหมาะกับกับการใช้งานและเคลื่อนไหวบนพื้นผิวต่าง ๆ มาพร้อมกับปุ่มปรับระดับแรงดูดและกล่องเก็บฝุ่นขนาด 1.5 ลิตร กรองด้วยระบบ HEPA มีสัญญาณแจ้งเตือนระดับฝุ่นและเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนถุงเก็บฝุ่น ราคาประมาณ 3,190 บาทเครื่องดูดฝุ่นแบบมีสาย กำลังไฟ 1,800 วัตต์ ดูดฝุ่นด้วยเทคโนโลยีไซโคลน ปรับความแรงได้ 2 ระดับ และ 2 รูปแบบ สำหรับพรมและพื้นผิวเรียบ กรองฝุ่นแบบ 7 ขั้นตอน พร้อมแผ่นกรองนาโนไททาเนีย มีกล่องเก็บฝุ่นขนาด 1.6 ลิตร พร้อมระบบอัดบีบฝุ่นด้วยพลังดูดขั้นสูง ทำให้สามารถทิ้งฝุ่นง่าย และไม่ทำให้ฝุ่นกระจาย สามารถทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น และระบบแจ้งเตือนเมื่อฝุ่นเต็ม ราคาประมาณ 3,290 บาทเครื่องดูดฝุ่นด้านจับแบบไร้สาย ด้านในบรรจุแบตเตอรีชาร์จซ้ำได้ กำลังไฟ 150 วัตต์ แรงดูด 10,000 PA น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม ความจุถังเก็บฝุ่นขนาด 0.7 ลิตร ใช้นงานต่อเนื่องได้สูงสุด 30 นาที ใช้ทำความสะอาดได้ทั้งพื้นผิวทั่วไป ซอกเข้าถึงยาก เช่น ใต้โซฟา รวมถึงบนผนัง ราคาประมาณ 4,590 บาทเครื่องดูดฝุ่นแบบ 2 in 1 สามารถใช้ได้ทั้งแบบด้านจับและแบบมือถือ กำลังไฟ 14.4 โวลต์ น้ำหนัก 2.4 กิโลกรัม สามารถปรับระดับแรงดูดได้ 2 ระดับ แปรงถอดทำความสะอาดง่าย มีกล่องเก็บฝุ่นความจุ 0.4 ลิตร ตัวเครื่องดีไซน์แบบ Selfstand ตั้งเก็บได้ทุกที่โดยไม่ต้องใช้แท่นวาง ราคาประมาณ 4,990 บาทหุ่นยนต์ทำความสะอาด เพียงแค่กดปุ่มก็เริ่มทำงานได้ทันที โดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมเอง พร้อมระบบทำความสะอาด 3 ขั้นนตอน ได้แก่ ปัด เก็บ และดูดฝุ่น ใช้เทคโนโลยี iAdapt และ Cliff-Defection Sensor ช่วยนำทาง ป้องกันตกจากพื้นที่ต่างระดับ และกลับเข้าแท่นชาร์จได้อัตโนมัติหลังทำความสะอาดเสร็จหรือเมื่อแบตเตอร์รีอ่อน ราคาประมาณ 7,900 บาทเครื่องดูดฝุ่น 2 in 1 ใช้ได้ทั้งแบบด้านจับและแบบมือถือ กำลังไฟ 18 โวลต์ วัสดุตัวท่อทำจาก Dry Carbon ทำให้มีน้ำหนักเบาเพียง 1.5 กิโลกรัม ทำความสะอาดได้ทุกที่ทั้งพื้นราบและที่สูง มีกล่องเก็บฝุ่นขนาด 0.13 ลิตร มาพร้อมฟิลเตอร์สามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย ชาร์จแบตเตอรีไวเพียง 80 นาที มี Easy Hook ใช้แขวนเก็บได้ทุกที่ ราคาประมาณ 8,100 บาทเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ใช้ได้ทั้งแบบด้านจับและมือถือ กำลังไฟ 25.2 โวลต์ สามารถทำความสะอาดต่อเนื่องได้สูงสุด 60 นาที ด้วยเทคโนโลยี PowerCyclone และหัวดูด TriActive Turbo ด้านในประกอบด้วยแผ่นกรอง 3 ชั้น ช่วยดักจับอนุภาคขนาดเล็ก ทั้งฝุ่น ขนสัตว์ และเกสรดอกไม้ อีกทั้งยังสามารถถอดออกมาล้างและทำความสะอาดได้ ราคาประมาณ 12,990 บาทเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย กำลังไฟ 545 วัตต์ น้ำหนัก 2.15 กิโลกรัม มาพร้อมพลังดูด 185 วัตต์ ด้วยเทคโนโลยีไซโคลน และระบบกรองฝุ่นแบบ HEPA ด้านหลังมีหน้าจอ LED แสดงการทำงานของเครื่องแบบเรียลไทม์ สามารถทำความสะอาดบนพื้นผิวได้หลายรูปแบบ พร้อมหัวแปรงหลายรูปแบบเพื่อให้เก็บกวาดฝุ่นได้ทุกซอกทุกมุม ทำงานต่อเนื่องได้สูงสุด 60 นาที ราคาประมาณ 27,900 บาทขอบคุณข้อมูลจาก allergyandair kohls และ officemate

Leave A Comment

Copyright © 2023 electricalleaf.com. All rights reserved.